วันพฤหัสบดีที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2557

อีสา รวีช่วงโชติ

“อีสา-รวีช่วงโชติ” ละคร“อีสา-รวีช่วงโชติ”
แหล่งที่มา http://gossipstar.mthai.com/tv-content/44861

“อีสา-รวีช่วงโชติ” “อีสา-รวีช่วงโชติ” บทประพันธ์ : สีฟ้า บทโทรทัศน์ : ศิริลักษ์ ศรีสุคนธ์             อีสา(วรุนุช ภิรมย์ภักดี) เกิดมาในแผ่นดินรัชกาลที่ 6 หลังจากที่มีการเลิกทาสแล้ว เกิดมาได้สองสามวันแม่ก็ตาย เพราะตกเลือด ป้าเจิม(รัญญา ศิญานนท์) จึงคอยเลี้ยงดูสา ป้าเจิมมีหน้าที่ช่วยงานอยู่ในโรงครัวของวังหม่อมเจ้าโชติช่วงระวี รวีวาร(ธีรพงศ์ เหลียวรักษ์วงศ์) ท่านชายเข้าพิธีเศกสมรสกับ หม่อมพริ้ม(สินจัย เปล่งพานิช) ซึ่งถือว่าเป็นหม่อมใหญ่ นอกจากนั้นท่านชายยังมีหม่อมอื่นๆ อันได้แก่ หม่อมลำดวน(ปนัดดา วงศ์ผู้ดี) หม่อมคนที่สอง หม่อมนิ่ม(ลักขณา วัธนวงส์ศิริ) และ หม่อมน้อยท่านชายทรงมีลูกกับหม่อมต่างๆ ซึ่งล้วนแต่เป็นธิดาทั้งสิ้น หม่อมทุกคนจึงแข่งขันกันอยู่ในทีว่าใครจะให้กำเนิดลูกชาย ผู้จะเป็นผู้รับสืบทอดตราประจำตระกูลรวีวารต่อจากท่านชาย สาโตขึ้นเป็นเด็กสาวหน้าตาสะสวย ป้าเจิมจึงพาสาไปฝากกับหม่อมนิ่มและหม่อมน้อยให้ฝึกรำ สาได้เห็นท่านชายอยู่บ่อยครั้ง และแอบหลงใหลในความสง่างามของท่าน สาโตเป็นสาวอายุได้16 ปี ในวังมีงานฉลองพระชนม์มายุครบ 4 รอบ (46 ปี) ของท่านชายหม่อมนิ่มให้สาขึ้นรำเป็นนางรจนา ตอนนางรจนาเสี่ยงพวงมาลัย สาตั้งใจรำโปรยเสน่ห์เต็มที่ และก็ได้ผล ความสวยของสาจับใจท่านชาย จนสาได้เป็นหม่อมของท่านชายในคืนนั้นเอง           ท่านชายโปรดปรานสามาก จนหม่อมทุกคนอิจฉา ต่อมาไม่นานสาก็ตั้งครรภ์ สาวาดหวังไว้ว่าตนจะได้ลูกชาย และมีอนาคตที่ดีงาม แต่เมื่อถึงกำหนดคลอด สาให้กำเนิดลูกชายตามที่คาดไว้ หม่อมพริ้มขอลูกของสาไปเลี้ยงเป็นลูกของตน ตอนแรกสาเองไม่แน่ใจ แต่เนื่องจากสาน้ำนมเป็นพิษ และท่านชายก็หลงใหลตัวสามาก ไม่ต้องการให้สาเสียเวลาไปกับการเลี้ยงลูก จึงยกลูกชายให้หม่อมพริ้มไป ท่านชายไปบรรทมที่ห้องสาทุกคืนไม่หยุดหย่อน จนในที่สุดท่านชายก็สิ้นพระชนม์ในคืนที่ไปนอนกับสา เมื่อสิ้นท่านชายก็สิ้นเสาหลักของบ้าน หม่อมพริ้มไม่ต้องการรับภาระเลี้ยงดูหม่อมต่างๆ และบ่าวไพร่จำนวนมากมาย หลายคนจึงต้องออกไปจากวัง เหลือเพียงป้าเจิมกับอีสาที่ยังอยู่เลี้ยงดู คุณชายรวีช่วงโชติ(นิธิดล ป้อมสุวรรณ) ลูกชายแท้ๆ ของสาเอง กับคุณหญิงอีก 3 คนอันเป็นลูกสาวของหม่อมพริ้ม           บริเวณรอบตำหนักใหญ่ถูกขายให้กับพระคลังข้างที่ จนหม่อมพริ้มต้องล้อมรั้ว และปล่อยบ้านเล็กบ้านน้อยรอบตำหนักใหญ่ให้เช่าเพื่อหารายได้ ทำให้สาได้รู้จักกับ สมศักดิ์(ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์) หนุ่มรูปงามที่มาอาศัยเช่าบ้านอยู่ สมศักดิ์หว่านเสน่ห์ใส่สาจนสาเคลิบเคลิ้ม แต่กลายเป็นว่า หญิงที่สมศักดิ์หมายปองกลายเป็น คุณหญิงโสภาพรรณวดี(เต็มฟ้า กฤษณายุทธ) ลูกสาวคนโตของหม่อมพริ้ม สาเสียใจมาก เพราะจริงๆ แล้วก็หลงใหลในตัวสมศักดิ์ แต่พอสารู้ตัวว่าตนตั้งท้องลูกของท่านชาย สาจึงตัดใจยอมรับเป็นแม่สื่อ ส่งจดหมายรักให้สมศักดิ์กับคุณหญิงโสภา จนถึงขั้นนัดพบกัน แต่หม่อมพริ้มจะให้คุณหญิงโสภาแต่งกับงานลูกของญาติท่านชาย แต่เธอไม่ต้องการแต่งงานกับคนอื่น จึงหนีไปตามคำชวนของสมศักดิ์ โดยมีสาเป็นผู้จัดการและติดตามไปด้วยความภักดี สร้างความโกรธแค้นให้กับหม่อมพริ้มเป็นอย่างมาก หม่อมพริ้มประกาศตัดแม่ตัดลูกกับคุณหญิงโสภา และถ้าหากพบตัวสากับสมศักดิ์จะจับเข้าคุกเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ทำให้สมศักดิ์ตกใจและผิดหวังมาก สาเพิ่งรู้ว่าจริงๆ แล้วสมศักดิ์เป็นคนดีแต่ปาก ที่หลอกพาคุณหญิงโสภาหนีมา เพราะหวังจะเข้าไปเป็นเขยของรวีวารเกาะกินสมบัติของหม่อมพริ้ม แต่พอสถานการณ์ไม่เป็นไปตามคาด สมศักดิ์จึงตกกระไดพลอยโจนต้องเลี้ยงดูคุณหญิงโสภาต่อไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากเป็นช่วงสงครามเศรษฐกิจตกต่ำ สมศักดิ์หางานทำไม่ได้ คุณหญิงโสภาและสาต้องอดอยาก สาสงสารคุณหญิงจึงพยายามเคี่ยวเข็นสมศักดิ์ให้ออกไปหางานหาเลี้ยงคุณหญิงด้วย          สาคลอดลูกออกมาเป็นผู้หญิง คุณหญิงไม่อยากให้ลูกของท่านชายต้องเป็นเด็กกำพร้า จึงรับเป็นแม่ของเด็ก ตั้งชื่อให้ว่า โสภิตพิไล(มนชนก แสงฉายเพียงเพ็ญ) แล้วเลี้ยงดูเป็นอย่างดี สาทำงานหนักเพื่อหาเลี้ยงคุณหญิงและลูก พอเห็นคณะละครชาตรีมาแสดงแถวบ้าน สาจึงไปสมัครเป็นนางละคร และได้เป็นนางเอกของคณะละครนั้น สำรวย(รัดเกล้า อามระดิษ) นักแสดงจากคณะละครร้องมาเห็นสา รู้สึกทึ่งในความสวยและความสามารถ จึงชวนสาไปแสดงด้วย สาก็ไปด้วยความเต็มใจ เพราะต้องการหาเงิน และอีกเหตุผลหนึ่งก็เพื่อหลบหนีจากสมศักดิ์ ที่มักจะมาเกาะแกะหาทางใกล้ชิดสาเสมอเมื่อกลับไปเป็นนางละคร สาก็กลับมาเป็นสาวสวยทรงเสน่ห์เหมือนที่เคย ขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างสมศักดิ์กับคุณหญิงค่อยๆ ห่างกันออกไป สมศักดิ์กลับมาติดพันสามากขึ้น วันหนึ่งระหว่างที่เล่นละคร สาเห็นหม่อมพริ้มมาชมละครก็ตกใจมาก ด้วยความที่กลัวหม่อมพริ้มสาจึงลาออกจากคณะ ไม่กลับไปแสดงละครอีก สมศักดิ์เริ่มหาโอกาสใกล้ชิดสามากขึ้น แล้วในวันหนึ่งด้วยบรรยากาศเป็นใจ สากับสมศักดิ์ก็ลักลอบมีความสัมพันธ์ต่อกันจนได้ หลังจากนั้นสาก็ยิ่งพยายามตีตัวออกห่างสมศักดิ์ พอดีกับที่สาได้ไปพบ วิทย์(กันต์ดนย์ อะคาซาน) เด็กหนุ่มนักดนตรีในหลุมหลบภัย วิทย์ทำงานอยู่ที่คณะละครที่สาไปดูมา วิทย์ติดใจสาจึงชวนสาไปเล่นละครแบบชายจริงหญิงแท้กับคณะละครที่กำลังจะเปิดใหม่ซึ่งสาก็ยินดี          สาบอกคุณหญิงว่าจะตนกลับไปเล่นละคร และเสนอให้คุณหญิงพาสมศักดิ์และโสภิตพิไล ย้ายไปอยู่บ้าน ป้าแป้น(ไปรมา รัชตะ) หญิงชาวสวนใจดีที่สาเคยรู้จักที่คลองบางกอกน้อย โดยอ้างว่าจะได้ไม่ต้องหนีลูกระเบิด แต่จริงๆ แล้วสาต้องการจะหนีห่างจากสมศักดิ์ สมศักดิ์ยังคงแอบมาหาสาที่บ้าน สาไม่เต็มใจ แต่ก็ขัดขืนธรรมชาติของตัวเองไม่ได้ คืนหนึ่งที่ระเบิดลงหนักสมศักด์ขอค้างกับสาที่บ้าน คุณหญิงเห็นสมศักดิ์ไม่กลับบ้าน ประกอบกับเป็นห่วงสาจึงไปหาที่บ้านแต่เช้าตรู่ และได้เห็นสาอยู่กับสมศักดิ์ คุณหญิงเสียใจมากหนีกลับบ้านป้าแป้นทันที สาสั่งให้สมศักดิ์ตามไปง้อขอคืนดี แต่คุณหญิงเสียใจและผิดหวังที่ถูกคนที่รักทั้งสองคนทรยศ จึงตัดสินใจฆ่าตัวตาย          เสร็จงานศพคุณหญิง สาตัดสินใจจดทะเบียนสมรสกับวิทย์เพื่อหนีสมศักดิ์ ทำให้สมศักดิ์เสียใจหันไปดื่มเหล้าอย่างหนัก และในที่สุดก็เมาตกน้ำตาย ในที่เดียวกับที่คุณหญิงฆ่าตัวตายนั่นเอง หลังแต่งงาน สาย้ายไปอยู่ที่บ้านวิทย์ วิภา(สกาวใจ พูนสวัสดิ์) พี่สาวของวิทย์รังเกียจสา เพราะทั้งสาและวิทย์ต่างไม่มีงานทำ วิทย์เป็นศิลปินไม่ยอมทำงานแบบอื่น เอาแต่สีไวโอลินไปวันๆ จนสาเองก็เริ่มเบื่อหน่าย วันหนึ่งสาไปพบกับพลเรือนญี่ปุ่นคนหนึ่งในหลุมหลบภัยชื่อ เซกิ(ณัฐ เทพหัสดิน ณ อยุทธยา) เป็นพนักงานบริษัทญี่ปุ่น เซกิหลงรักสา สาเองก็เผลอไผลไปกับความสุขสนุกสนานที่เซกิปรนเปรอให้ ทำให้สากับวิทย์เริ่มมีปากเสียงกัน ต่อมาเซกิรู้ว่าญี่ปุ่นกำลังจะยอมแพ้สงครามกับอเมริกา ด้วยความรักเซกิจึงมอบเงินก้อนใหญ่ให้สาก่อนจะกลับประเทศไป สาจึงตัดสินใจเลิกกับวิทย์แล้วกลับไปอยู่กับป้าแป้น          สา ซึ่งบัดนี้เป็นที่รู้จักของทุกคนในนามของ อุษาสาวใหญ่วัย 40 ปี เอาเงินที่ได้จากเซกิมาตั้งไนท์คลับ สากลับมามีชื่อเสียงหอมหวนให้หมู่นักเที่ยว คลับของสามีคนแน่นทุกวัน ทำให้ฐานะของสาร่ำรวยขึ้นอีกมาก จนประธาน(ปฏิภาณ ปฐวีกานต์) หุ้นส่วนหนุ่มที่แอบหมายปองในตัวสา เพราะหวังเงิน ซึ่งสาก็รู้ทันแต่ก็อดไม่ได้ลอบมีความสัมพันธ์กับประธานอย่างลับๆ แต่สาไม่เคยไว้ใจประธานเลย สาเหมือนจะมีความสุขทุกอย่าง ยกเว้นเรื่องเดียวคือ โสภิตพิไลลูกที่แท้จริงของสา ที่คิดว่าตนเป็นเพียงหลานสาว ตอนนี้เรียนจบชั้นมัธยมจากโรงเรียนประจำ และกลับมาอยู่ในบ้านกับสา โสภิตคิดสาเป็นญาติห่างๆ ของแม่ และมีศักดิ์เป็นป้า โสภิตเกรงใจสาที่เลี้ยงมา แต่ก็แอบไม่พอใจที่สามีอาชีพที่น่ารักเกียจ ทำให้เธอต้องอับอายเพิ่อนฝูง ประธานสนใจโสภิตที่กำลังแตกเนื้อสาว แต่โสภิตไม่ชอบประธานนัก และสาเองก็รู้ทันคอยกีดกันอยู่เสมอ วันหนึ่งสาได้พบกับชายหนุ่มคนหนึ่งที่คลับของเธอ เขาคือหม่อมราชวงศ์รวีช่วงโชติ รวีวาร สาดีใจมากที่ได้เห็นลูกชายของตนเติบโตมาเป็นชายหนุ่มที่สง่างาม สาสนใจคุณชายรวีอย่างออกนอกหน้า และพยายามสืบเรื่องของคุณชายรวี จนรู้ว่าจบกฎหมายมาจากฝรั่งเศส แล้วตอนนี้เป็นผู้พิพากษา สาพยายามตีสนิทเอาอกเอาใจคุณชายระวี ชวนให้ระวีมาที่ไนต์คลับบ่อยๆ ทำให้ประธานไม่พอใจ คุณชายรวีเองก็รู้สึกถูกชะตากับสา ไม่ได้นึกรังเกียจว่าเป็นคนกลางคืน กลับสงสารที่สาต้องมาทำงานในที่ที่คนดูถูกอย่างนั้น คุณชายรวีชอบเสียงร้องเพลงของสา และมักจะแวะไปที่คลับบ่อยๆ          หม่อมพริ้มได้ข่าวว่าคุณชายรวีไปติดพันนักร้องเจ้าของไนท์คลับ หม่อมพริ้มตักเตือนคุณชาย แต่คุณชายไม่เชื่อ จนกระทั่งวันหนึ่ง หม่อมพริ้มเห็นรูปสาในหน้าหนังสือพิมพ์ แต่ไม่แน่ใจจึงไปถามยายเจิม ยายเจิมบอกได้ชัดเจนว่าผู้หญิงในรูปคือสา หม่อมพริ้มตกใจมาก เกรงว่าสาจะบอกความจริงกับชายรวี ว่าตัวเองคือใคร หม่อมพริ้มไปหาสาที่บ้าน ทั้งสองคนจำกันได้ถึงแม้เวลาจะผ่านไปนานแล้วก็ตาม หม่อมพริ้มห้ามสา บอกคุณชายรวีเรื่องชาติกำเนิดของตน สาให้คำสาบานว่าจะไม่บอก แต่ก่อนจะกลับ หม่อมพริ้มเห็นโสภิตพิไล เธอสงสัยว่าเด็กสาวคือลูกของใคร สาจึงจำใจต้องบอกว่าเป็นลูกของคุณหญิงโสภา ทำให้หม่อมพริ้มเศร้าใจ คิดถึงลูกสาวที่จากไปเพราะความใจแข็งของเธอเอง หม่อมพริ้มคิดจะขอโสภิตมาเลี้ยงแทนคุณหญิงโสภา แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไร โสภิตก็ถูกประธานที่ดื่มเหล้าเมาลวนลาม สาเข้าเห็นการกระทำของประธานเข้า โมโหจนขาดสติ จึงคว้าปืนยิงประธานล้มลง ถึงแก่ความตาย สาถูกตำรวจจับไป สาไม่ยอมบอกความจริงว่าเธอยิงประธานเพราะลวนลามโสภิต เพราะไม่อยากให้ชื่อเสียงของโสภิตเสียหาย สาถูกนำตัวไปฝากขังไว้ที่เรือนจำแดนนักโทษหญิงเพื่อรอพิจารณาคดี โสภิตพิไลรู้ว่าสาอาจจะถูกพิพากษาประหารชีวิตเพื่อปกป้องตน โสภิตตัดสินใจว่าจะต้องช่วยเหลือสาให้ได้         วันพิจารณาคดีสาถูกนำตัวไปขึ้นศาลโดยมีคนรู้จักสา ลูกจ้าง นักร้อง ร่วมถึงหม่อมพริ้มมานั่งฟังการพิจารณาคดีด้วย สายตาของสาเหลือบไปเห็นผู้ที่นั่งอยู่บนบัลลังก์คือ คุณชายรวี ซึ่งเป็นผู้พิพากษาในคดีของสา และโดยที่สาไม่คาดฝัน โสภิตพิไลเข้ามาเป็นพยาน โสภิตเล่าเรื่องทั้งหมดให้ศาลฟัง จนสุดท้ายศาลก็ยกฟ้องคดีของสา สาจึงได้เป็นอิสระ คุณชายรวีชื่นชมในความรักและเสียสละที่สามีต่อโสภิต ที่เป็นเพียงหลานสาว ยิ่งคุณชายชื่นชมสามากเท่าไหร่ หม่อมพริ้มก็ยิ่งระแวงมากขึ้นเท่านั้น เกรงว่าอีสาจะมาอ้างความเป็นแม่ แล้วแย่งคุณชายรวีกลับคืนไป หม่อมพริ้มจึงขอให้สายุติความสัมพันธ์ระหว่างสากับคุณชายรวีลง และขอร้องชายรวีให้เห็นแก่ชื่อเสียงของวงศ์ตระกูล เลิกไปคบกับสา และร้ายกว่านั้น หม่อมพริ้มยังตัดสินใจบอกความจริงกับโสภิตพิไล ว่าจริงๆ แล้วสาไม่ใช่ญาติ แต่เป็นเพียงบ่าวที่ชักนำให้แม่ของเธอหนีตามผู้ชายไป โสภิตโกรธและเกลียดสามา ทำให้สายิ่งเสียใจสาถูกพรากจากลูกทั้งสอง ด้วยความเสียใจ สาเกือบจะฆ่าตัวตาย แต่ทันใดนั้นสาก็นึกถึงพระรัตนตรัยขึ้นมาจึงทำให้สาหยุดความคิดนั้น          สาหันหน้าเข้าสู่พระรัตนตรัยโดยการบวชเป็นชีที่สำนักชีแห่งหนึ่ง ทำให้สามีจิตใจที่สงบขึ้น และหลุดพ้นจากกิเลสตัณหา แต่สาบวชชีได้พักหนึ่ง แต่จิตใจสงบอยู่ได้ไม่นาน นิสัยเดิมของสาที่ติดหลงในกิเลส ความเย้ายวนต่างๆ ก็ทำให้สาตัดสินใจสึกออกมา สากลับไปที่วังรวีวารอีกครั้ง เพื่อไปกราบหม่อมพริ้ม และคุณหญิงลูก ๆ ของหม่อมพริ้ม สาไปเยี่ยมโสภิตพิไล ที่บัดนี้หม่อมพริ้มเอามาเลี้ยงดูในฐานะหลานสาว เพราะเข้าใจว่าโสภิตเป็นลูกของหญิงโสภา โสภิตเย็นชากับสา เพราะยังไม่หายโกรธ ที่สาเป็นต้นเหตุให้คุณหญิงโสภาแม่ของเธอ ต้องมีชีวิตที่ยากลำบาก ทำให้สาเสียใจมาก ส่วนคุณชายรวีนั้นรู้เพียงว่า สาเคยเป็นหม่อมคนหนึ่งของท่านพ่อ แต่ก็ยังรักและดีกับสาเสมอ ความอ่อนโยนและเมตตาของชายรวี เป็นเสมือนน้ำทิพย์ชะโลมใจสา          จากนั้น สาก็ไปเยี่ยมพี่แป้นที่บ้านคลองบางกอกน้อย ทุกคนรักและมีน้ำใจกับสาเหมือนเดิม ใจสว่าง(ลิลลี่-ภัณฑิรา) หลานสาวของพี่แป้นเรียนอยู่มหาวิทยาลัยคณะเดียวกับโสภิตพิไล และเป็นมหาวิทยาลัยที่คุณชายรวีเป็นอาจารย์สอน ใจสว่างเป็นเด็กดีสาจึงชวนใจสว่างให้มาอยู่ด้วยกันที่บ้าน เพื่อจะได้ไม่ต้องไปอยู่ที่หอพัก และสาเองก็มีใจสว่างเป็นเพื่อนปรับทุกข์เรื่องโสภิตพิไล เพราะใจสว่างรู้ความจริงทุกอย่าง ที่บ้านของสา เพ็ญศรี เพื่อนของสาเป็นช่วยดูแลไนท์คลับให้ระหว่างที่สาเข้าคุกและบวชชี นำเงินที่ได้มาให้สา สาตัดสินใจเลิกทำไนท์คลับ หันมาเปิดร้านทำผมตัดเสื้อ เพราะเห็นแก่โสภิต ว่าจะได้ไม่ต้องอับอายคนที่มีแม่เป็นคนกลางคืน หลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง กลุ่มนักการเมืองขึ้นมามีอำนาจ ความสำคัญของตระกูลรวีวารก็หมดลง ทรัพย์สมบัติก็ร่อยหรอไป คุณหญิงหริ พี่สาวคุณชายรวี ต้องการแนะนำให้ชายรวีแต่งงานกับคุณแหวว-สวาทโฉม ลูกสาวของ คุณหญิงเฉิดฉวี และ นายพลสันทนา(ภูธเนศ หงษ์มานพ) ที่กำลังเรืองอำนาจ เพราะใกล้ชิดกับท่านผู้นำ ทั้งนี้เพื่อผดุงฐานะของรวีวาร และเป็นการสนับสนุนธุรกิจของ ปวุฒิ สามีของคุณหญิงหริทางอ้อมด้วย         ในงานฉลองยศของนายพลสันทนา คุณชายรวี และโสภิตจึงได้รับเชิญไปงานด้วย เพื่อให้คุณชายรวีได้พบกับสวาทโฉม แต่ “ท่าน” เจ้านายของนายพลสันทนาที่มาร่วมงานเกิดถูกตาต้องใจในตัวโสภิต ต้องการให้โสภิตมาเป็นอนุภรรยา จึงให้นายพลสันทนาเป็นธุระจัดการให้ นายพลสันทนารู้ว่าโสภิตเป็นลูกสาวของสา จึงมาติดต่อสาที่ร้านทำผม แต่เมื่อนายพลสันทนาได้พบสาก็เกิดหลงเสน่ห์ สาเองก็ว้าเหว่จึงเผลอใจตกเป็นอนุภรรยาของนายพลสันทนา นายพลสันทนาหลงรักสามากถึงกับให้เงินลงทุน ให้สาเปิดคลับขึ้นอีกครั้งหนึ่ง เพื่อที่เขาจะได้ไปหาสาได้สะดวก เมื่อคุณหญิงเฉิดฉวีรู้เรื่องเข้า จึงตั้งตัวเป็นศัตรูกับสาอย่างเปิดเผย          ส่วนตัวโสภิตพิไลเองนั้น กำลังมีความรักกับ ชิษณุ ลูกชายของคุณหญิงศุภลักษณ์ลูกสาวของหม่อมพริ้ม ถึงขั้นจะแต่งงานกันโสภิต แต่เมื่อสารู้ข่าวก็อดไม่ได้ที่จะขัดขวาง เพราะจริงๆ แล้วโสภิตเป็นลูกสาวของตัวเอง และมีศักดิ์เป็นน้าแท้ๆ ของชิษณุ สาจึงจำเป็นต้องพาคุณชายรวีไปหาพี่แป้น และเล่าความจริงเรื่องกำเนิดของโสภิตให้คุณชายรวีฟัง โดยมีพี่แป้นเป็นพยานอีกคนหนึ่ง เมื่อคุณชายรวีรู้เรื่องก็ตกใจ จึงหาทางช่วยขัดขวางเรื่องการแต่งงาน คุณชายรวีไปพบชิษณุ ซึ่งคุณชายรวีมีศักดิ์เป็นน้าของชิษณุ ทั้งๆ ที่คุณชายรวีมีอายุน้อยกว่า คุณชายรวีเล่าเรื่องทั้งหมดให้ชิษณุฟัง ชิษณุเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น จึงหนีหน้าโสภิตไปทำงานที่โคราช เพื่อตัดปัญหาทั้งหมด โสภิตตามไปหาชิษณุที่โคราช แต่เจอชิษณุอยู่กับอัญมณีคนรักเก่า โสภิตเสียใจดื่มเหล้าจนเมาขาดสติ และเกือบจะถูกทหารจีไอพาตัวไป แต่โชคดีที่ ปรมัตถ์ คนที่เคยชอบเธอสมัยเรียนมาช่วยไว้ได้ทัน ใจสว่างได้รู้ข่าวจากปรมัตถ์ จึงพาคุณชายรวีไปตามหาโสภิตถึงโคราช คุณชายรวีเห็นโสภิตเสียใจมากที่ถูกทอดทิ้ง จึงตัดสินใจบอกความจริง ว่าชิษณุกับโสภิตไม่อาจรักกันได้ เพราะจริงๆ แล้ว เธอเป็นลูกของสา โสภิตตกใจมากที่ตนเป็นลูกของสา ผู้หญิงที่ตนเคยดูถูกว่าต่ำต้อยและไร้ยางอาย          โสภิตไม่อาจสู้หน้าหม่อมพริ้ม จึงกลับไปอยู่กับสา และเมื่อโสภิตไปพบนายพลสันทนา จึงรับปากจะเป็นอนุภรรยาของ “ท่าน” เพื่อประชดสา และประชดทุกๆ คน สาและคุณชายรวีพยายามห้าม แต่โสภิตก็ไม่ฟัง และยังหนีไปจากบ้าน ที่ “ท่าน” สั่งให้หาเอาไว้ให้ สาพยายามติดตามหาโสภิต แต่เธอไม่ยอมพบสา ระหว่างนั้น คุณชายรวีจำใจต้องแต่งงานกับสวาทโฉม เพราะไม่อาจขัดผู้ใหญ่ได้ ตลอดเวลาคุณชายรวีทำหน้าที่เป็นสามีที่ดี แต่สวาทโฉมเองก็ไม่ได้รักคุณชาย เธอเองก็มีความจำเป็นทำให้ต้องแต่งงานเหมือนกัน ใจสว่างเห็นชัดว่าคุณชายรวีไม่มีความสุข เธอทำได้เพียงให้กำลังใจเขา ยามเจิมล้มป่วยลงใกล้ตาย คุณชายรวีและคุณหญิงศรีลักษณา ไปเยี่ยมยายเจิมที่ห้อง ยายเจิมหลงเห็นคุณชายรวีเป็นท่านชายพ่อของคุณชายรวี เลยหลุดปากพูดเรื่องสาออกมา ว่าสามีลูกชายกับท่านชาย 1 คน คุณชายรวีจึงไปถามความจริงจากคุณหญิงศรีลักษณา และได้รู้ว่าตัวเองคือลูกของสา แต่ด้วยความเข้าใจในเรื่องราวทั้งหมด คุณชายรวีก็ไม่ได้โกรธ หรือรังเกียจที่มีแม่อย่างสาเลย แต่ดีใจด้วยซ้ำที่ได้รู้ความจริง และก็ยังรักหม่อมพริ้มแม่ที่เลี้ยงดูมาเหมือนเดิม          นายพลสันทนาช่วยให้สาและใจสว่างได้เจอโสภิต โสภิตได้สติขึ้นมา แต่ก็สายไปเสียแล้ว เพราะอีกไม่นาน “ท่าน” จะกลับจากต่างประเทศ และไม่มีใครสามารถจะปฏิเสธ “ท่าน” ได้ สาได้แต่เสียใจ หม่อมพริ้มได้แต่ก่นด่าสาปแช่งสา ว่าเกิดมาเพื่อทำลายชื่อเสียงของรวีวาร สุดท้ายสาจะหาทางช่วยโสภิตได้หรือไม่? และความบาดหมางของสากับหม่อมพริ้มจะลงเอยยังไง ตามชมได้ในละคร “อีสา-รวีช่วงโชติ” ทุกวันพุธ-พฤหัส 20.10น. ช่อง 5

-อ่านต่อ- http://gossipstar.mthai.com/tv-content/44861
แหล่งที่มา http://gossipstar.mthai.com/tv-content/44861

เล่ห์นางฟ้า

เล่ห์นางฟ้า ละครเล่ห์นางฟ้า
แหล่งที่มา http://gossipstar.mthai.com/tv-content/45865

เล่ห์นางฟ้า เล่ห์นางฟ้า เล่ห์นางฟ้า บทประพันธ์ : แพรณัฐ เล่ห์นางฟ้า บทโทรทัศน์ : พรดี เล่ห์นางฟ้า กำกับการแสดง วิลาวัณย์ สังฆะภิบาล เล่ห์นางฟ้า ออกอากาศ : จันทร์ - อังคาร เวลา 20.25 น. ทางช่อง 5             ลัลน์ลลิต หรือ บิวตี้(วิว-วรรณรท สนธิไชย) สาวไฮโซทายาทของ บริษัท ธนบวร จำกัด ผู้ผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปรายใหญ่ระดับนานาชาติ บิวตี้ถูก บวร(เพ็ญเพชร เพ็ญกุล) พ่อของเธอตามใจด้วยเงินทองเพื่อทดแทนที่เธอขาดแม่ตั้งแต่ยังเด็ก เธอจึงกลายเป็นคนเอาแต่ใจ ขี้วีน เริ่ดเชิดหยิ่ง และที่สำคัญรักสวยรักงามเป็นที่สุด หลังพ่อของเธอประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต บิวตี้ก็มี กรเทพ(โอลิเวอร์ พูพาร์ต) อาแท้ๆ คอยดูแลมาตลอด นับวันนิสัยแย่ๆ ของบิวตี้ก็ยิ่งหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ จนล่วงรู้ไปถึง นางฟ้าลลิตา(นิโคล เทริโอ) มารดาผู้ล่วงลับที่อยู่ในภพภูมินางฟ้า นางฟ้าลลิตากลัวลูกสาวจะต้องมีชีวิตที่ตกต่ำในอนาคต จึงคิดฝืนกฎสวรรค์ใช้อำนาจช่วยลูก แต่ ปรมะเทวี(นุสบา ปุณณกันต์) หัวหน้านางฟ้ากลับเข้ามาขัดขวาง และเสนอจะให้บทเรียนกับบิวตี้เพื่อให้เธอสำนึก ด้วยการสาปให้บิวตี้เป็นนกหงส์หยกหลังพระอาทิตย์ตกดิน โดยมีเงื่อนไข 3 ข้อคือ 1.ต้องทำความดีให้มากกว่าความชั่ว 2.ต้องนึกถึงผู้อื่นมากกว่าตนเอง และ 3.ต้องรักชายคนหนึ่งยิ่งกว่ารักตัวเอง หากทำสามข้อนี้ไม่สำเร็จภายในสามเดือนร่างของบิวตี้จะกลายเป็นนกหงส์หยกตลอดไป              หลังถูกสาปบิวตี้ก็ร้อนใจบินไปขอความช่วยเหลือจากคนรอบข้าง แต่เธอกลับได้รู้ว่าไม่มีใครจริงใจกับเธอสักคน แถมเธอยังได้ล่วงรู้ว่ามีคนคิดทรยศบริษัท บิวตี้ทั้งช็อคทั้งเสียใจจึงบินโซซัดโซเซไปถึงบ้านของ ธีภพ(พุฒ-พุฒิชัย เกษตรสิน) ลูกชายของ ธนา(อนุวัฒน์ นิวาตวงศ์) หุ้นส่วนบริษัทและเพื่อนของพ่อเธอ ธีภพกับบิวตี้เป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตั้งแต่เด็ก แต่เมื่อนกหงส์หยกบิวตี้ได้รับการดูแลอย่างอ่อนโยนจากธีภพ เธอจึงเริ่มรู้สึกดีกับเขา แม้ในใจจะยังระแวงว่าธีภพอาจจะเป็นคนที่คิดทรยศบริษัท บิวตี้ฮึดสู้เพื่อรักษาบริษัทของพ่อโดยขอให้ธีภพช่วยสอนงาน ธีภพจึงวางเงื่อนไขว่าบิวตี้ต้องฝึกงานทุกแผนกโดยไม่แสดงตัวว่าเป็นใคร บิวตี้ก็ยอมทำตามแม้จะสร้างเรื่องป่วนไม่เว้นแต่ละวัน ไหนจะต้องปิดบังเรื่องกลายร่างเป็นนกหงส์หยกอีก แต่บิวตี้ก็ฝึกงานสำเร็จจนเป็นที่ยอมรับของทุกคน ยกเว้น พักตร์พิมล หรือ แพ็ต(เอ้ก-บุษกร ตันติภนา) ลูกสาวของกรเทพ แพ็ตริษยาบิวตี้เพราะคิดว่าบิวตี้แย่งทุกอย่างไปจากตน              บิวตี้เริ่มปรับปรุงตัวไปในทางที่ดี ทำให้ธีภพเริ่มรู้สึกดีกับบิวตี้มากขึ้นเรื่อยๆ ระหว่างนั้นบิวตี้ก็ใช้ร่างนกหงส์หยกคอยสืบหาหลักฐานว่าใครที่เป็นคนทรยศ เมื่อบิวตี้ก้าวเข้ามาเป็นประธานบริษัทร่วมกับธีภพ เธอจึงได้รับเชิญไปร่วมงานที่ห้างสรรพสินค้าของครอบครัว อรวิภา(ซี-หทัยภัทร สมรรถวิทยาเวช) ว่าที่คู่หมั้นของธีภพ พอบิวตี้เห็นธีภพให้ความสนใจอรวิภามากกว่าตน บิวตี้จึงประชดด้วยการหันไปสนิทสนมกับ เจตน์ชาญ(ดิว-ภัทรพล กันตพจน์) เจ้าของบริษัทคู่แข่งของธนบวร นอกจากจะประชดธีภพแล้วบิวตี้ยังหวังจะสืบว่าเจตน์ชาญมีส่วนเกี่ยวข้องในการฮุบบริษัทของเธอหรือไม่ ธีภพหงุดหงิดใจที่บิวตี้ไปสนิทกับเจตน์ชาญแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เจตน์ชาญพาบิวตี้ชมโรงงานยกเว้นห้องลับในแผนกดีไซน์ บิวตี้เชื่อว่าในห้องนั้นต้องมีหลักฐานซ่อนไว้ พอตกกลางคืนนกหงส์หยกบิวตี้จึงแฝงตัวเข้าไป ทำให้เธอเจอหลักฐานแบบเสื้อที่ลอกมาจากบริษัทของเธอ และยังได้พบว่ากรเทพนัดพบกับเจตน์ชาญอย่างลับๆ บิวตี้จึงมั่นใจว่ากรเทพเป็นคนที่ทรยศบริษัท แต่เรื่องราวร้ายๆ ยังไม่จบเพียงเท่านี้ เพราะสิ่งที่พ่อของบิวตี้และบิวตี้เคยทำไว้กับผู้อื่นในอดีตกำลังย้อนกลับมาทวงคืนถึงขั้นเอาชีวิต แถมเวลาแก้คำสาปของบิวตี้ก็น้อยลงทุกที งานนี้บิวตี้จะรักษาบริษัทไว้ได้หรือไม่? แล้วเธอจะหาทางแก้คำสาปได้อย่างไร? ความรักระหว่างบิวตี้กับธีภพจะลงเอยอย่างไร? ติดตามชมและร่วมลุ้นได้ในละคร “เล่ห์นางฟ้า” ทางช่อง 5 20.25น. ออกอากาศตอนแรกอังคารที่ 1 เมษายนนี้   รายชื่อนักแสดง วรรณรท สนธิไชย รับบทเป็น ลัลน์ลลิต (บิวตี้) พุฒิชัย เกษตรสิน รับบทเป็น ธีภพ นุสบา ปุณณกันต์ รับบทเป็น ปรมะเทวี นิโคล เทริโอ รับบทเป็น นางฟ้าลลิตา บุษกร ตันติภนา รับบทเป็น พักตร์พิมล (แพ็ต) ภัทรพล กันตพจน์ รับบทเป็น เจตน์ชาญ หทัยภัทร สมรรถวิทยาเวช รับบทเป็น อรวิภา นิธิชัย ยศอมรสุนทร รับบทเป็น กระตั้ว สิรินทร์ ก่อเกียรติ รับบทเป็น ปีวรา

-อ่านต่อ- http://gossipstar.mthai.com/tv-content/45865
แหล่งที่มา http://gossipstar.mthai.com/tv-content/45865

ทรายสีเพลิง

ทรายสีเพลิง ละครทรายสีเพลิง
แหล่งที่มา http://gossipstar.mthai.com/tv-content/44080

ทรายสีเพลิง ทรายสีเพลิง บทประพันธ์ : ปิยะพร ศักดิ์เกษม บทโทรทัศน์ : ศัลยา, วรรณวิภา สามงามแจ่ม กำกับการแสดง : ยุทธนา ลอพันธุ์ไพบูลย์               เรื่องราวของหญิงสาวผู้เติบโตมาด้วยความคั่งแค้นในชะตาชีวิต เพราะซึมซับความกดดันเคียดแค้นต่างๆจากมารดา หากสุดท้าย...ชีวิตของเธอก็พบเพียงความว่างเปล่า... เพราะเพลิงแห่งความกระหายในชัยชนะที่ไม่เคยพอของตนเอง ดวงตา เด็กในอุปถัมภ์ของ คุณหญิงศิริ ที่ชุบเลี้ยงเธอมาแบบกึ่งลูกกึ่งคนรับใช้ ชีวิตของดวงตาคงสงบเรียบง่ายตามสภาพหากเธอจะไม่ไปหลงรักและเผลอไผลได้เสียกับ ศก ลูกชายคนเดียวของคุณหญิง หากความทะเยอทะยานที่ต้องการขยับฐานะของดวงตาก็ต้องสิ้นสุดลงทันทีที่คุณหญิงรู้เรื่อง คุณหญิงจับ ศกแต่งงานกับ เสาวนีย์ ผู้หญิงที่มีคุณสมบัติเพียบพร้อมจะมาเป็นสะใภ้คนเดียวของตระกูล‘พรหมมาสตร์นารายณ์’ แม้ขณะนั้น คุณหญิงจะรู้ว่าดวงตากำลังตั้งท้องแล้วก็ตาม...              ดวงตาเก็บงำความเจ็บช้ำไว้ นอกจากความรักที่พันธนาการหัวใจเธอ...เธอยังแอบหวังว่าสักวัน...โอกาสที่ดีน่าจะเป็นของเธอบ้างเพราะอย่างน้อย เธอก็มีลูก คือ ศรุตา หรือ ทราย เป็นเครื่องต่อรอง จนเมื่อวันหนึ่ง เสาวนีย์ตั้งท้องและคลอดลูกออกมาเป็นหญิง ชื่อ ศรวณี หรือ ลูกศร.. ดวงตาก็ยังยื้อ ยังทนอยู่ด้วยทิฐิจนวันหนึ่ง...มีคำถามจากลูกน้อยว่า...“ร้อยเอาไว้ใช้”แปลว่าอะไรเพราะทรายได้ยินพ่อกับย่าคุยกันว่าพวกเขาเลี้ยงแม่ไว้เพื่อคำๆนี้...คำถามจากลูกน้อยไม่ต่างอะไรกับอาวุธแหลมคมที่แทงลงตรงกลางใจ...ความรัก ความหวัง ความกตัญญูรู้คุณที่เคยพันธนาการเธอไว้จบสิ้นลง กอปรกับตอนนั้นเกิดอุบัติเหตุทรายทะเลาะและผลักลูกศรตกน้ำอาการปางตาย... ดวงตาจึงตัดสินใจพาลูกน้อยหนีออกจากบ้านโดยมิได้ร่ำลาแม้คนที่เธอรักที่สุดคือศก              แรงรัก สร้างรอยแค้น... ตั้งแต่บัดนั้น ดวงตาทั้งสัญญาทั้งสาบานกับตัวเองว่าจะต้องทำทุกอย่างเพื่อให้ชีวิตของเธอกับลูกมีทุกสิ่งทัดเทียมและจะต้อง ‘ดีกว่า’ ที่ที่เธอจากมาให้จงได้สองแม่ลูกได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ต่างจังหวัดด้วยความช่วยเหลือของ ป้าน้อย หัวหน้าพยาบาลโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งที่ฝากงานให้..... ก่อนจากไปดวงตาไม่ลืมพาทรายไปกราบลา ครูนารี ครูใหญ่ผู้มีพระคุณ และวันนั้นเองที่ทรายได้พบกับ พี่บี หรือ บุรี หลานชายครูนารีที่ทรายยังจดจำความใจดีของพี่บีได้...และดวงตาอบอุ่นอ่อนโยนคู่นั้นก็ยังติดตราตรึงใจเด็กหญิงทราย จวบจนวันที่เด็กหญิง กลายเป็น นางสาวศรุตา ผู้สวยสง่า เป็นที่หมายปองของชายหนุ่มทุกคนที่มีโอกาสได้พานพบเธอ...              ณ สหรัฐอเมริกา ศรุตา กลายเป็นคนใหม่ ทุกคนในสังคมชั้นสูงรู้จักเธอในนาม นางสาว แซนดี้ พี. ดาลตัน ศรุตาสามารถพาตัวเองแทรกเข้ามาเป็นผู้หญิงแถวหน้าของสังคมทั้งความงาม การศึกษา และ การงาน ในฐานะทายาทมหาเศรษฐีเจ้าของบริษัทคอมพิวเตอร์ที่มีเครือข่ายกว้างขวางนามว่า “ดอน ดาลตัน”...มิใช่แค่เพียงสถานภาพภายนอกหากภายในห้วงลึก...ศรุตาก็ยังปรารถนาที่จะครองความเป็นหนึ่งในหัวใจผู้ชายทุกคนเพื่อสร้างความมั่นใจว่าเธอนั้นมีพลังอำนาจดุจเปลวเพลิงที่ทรงอานุภาพที่เลือกจะละลายหัวใจของชายใดก็ได้เพียงเพราะความสะใจหรือความสุขชั่วคราว ...หากแท้จริงแล้ว เธอรู้ดีว่ามันคือกระบวนการชำระล้างคราบความแค้นที่เธอกับแม่เคยเป็นฝ่ายถูกกระทำในอดีตให้หมดไป!              ศรุตาเรียนรู้ที่จะใช้ความรักล่อลวงทุกคนให้เข้ามาติดกับ พร้อมๆกับการควบคุมจิตใจไม่ให้เป็นทาสของความรักเพราะเธอทนไม่ได้ที่จะต้องตกเป็นเบี้ยล่าง จึงมีชายหนุ่มมากหน้าที่ถูกศรุตาใช้เสน่ห์ล่อให้หลง ครั้นพอเขาจะจริงจัง ศรุตาก็จะถอยฉาก หรือไม่ก็สลัดทิ้งอย่างไม่ใยดี ประหนึ่งว่าน้ำตาผู้ชาย คืออาหารอันโอชาของเธอก็ไม่ปาน... แม้กระทั่ง ชาร์ลส์ หรือ ฌาน ผู้ชายคนพิเศษที่ทรายเข้าไปทำหน้าที่รักษาแผลใจให้เขา หลังจากที่เขาอกหักจาก ลิซ่า คู่รักที่ชาร์ลส์รู้ความจริงว่าเธอมิได้รักเขาที่ตัว หากแต่การคบหานั้นเป็นบันไดเพื่อธุรกิจครอบครัวเนื่องจาก นอร์แมน หว่อง นักธุรกิจชาวฮ่องกง สามีใหม่ของ แอนน์ แม่ของชาล์รส์ คือผู้ที่สามารถจะผลักดันธุรกิจของครอบครัวเธอให้ประสบความสำเร็จได้ ชาร์ลส์มีทรายคอยปลอบใจ ทั้งคู่คบหา ผูกพันกันเป็นพิเศษจนแทบจะเรียกได้ว่าเป็น ‘คู่รัก’ ที่สำคัญ ชาร์ลส์เป็นผู้ชายคนแรกและคนเดียวที่ทรายยอมมอบสิ่งที่หวงแหนที่สุดให้เขาในชั่วโมงเสน่ห์หาที่ชาร์ลส์นั้นมีสัมพันธ์กับเธอด้วยใจรักตรงกันข้ามกับทรายที่คิดเพียงแค่ว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่จะทำให้เธอผูกมัดผู้ชายที่ดูท่าว่าเธอจะเอาชนะได้ ‘ยาก’ กว่าคนอื่นๆ...ก็เท่านั้น             ความเป็นคนดูยากของทราย สร้างความงุนงงให้กับ คีตา และ งามสรรพ เพื่อนสนิทหรือแม้แต่ตัวชาร์ลส์เองก็ได้รับรู้อดีตของทรายเพียงว่า...หลังจากที่ทรายกับแม่ต้องจากบ้านมาดวงตาก็เลือกจะไปใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองใหญ่ทางเหนือของไทย ดวงตาสู้ทนกับความเปล่าเปลี่ยวและงานหนักเพื่อเก็บเงิน และเมื่อมีมากพอ เธอก็ไม่รีรอจะพาลูกสาวคนเดียวเดินทางสู่แผ่นดินแห่งความหวังใหม่ และไม่นาน ดวงตาก็ได้แต่งงานกับมหาเศรษฐี ดอน ดาลตัน ที่เข้ามารับการรักษาในโรงพยาบาลที่ดวงตาทำงานอยู่...จากนั้น ชีวิตของสองแม่ลูกก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง...วันหนึ่งชาร์ลส์มาหาทรายเพื่อบอกข่าวว่าเขาจะต้องบินกลับเมืองไทยเพราะพ่อเลี้ยงของเขาคิดจะทำโครงการใหญ่และต้องการให้เขาไปดูแล โครงการที่ว่านี้คือการพัฒนาที่ดินที่เคยบ้านเก่าของต้นตระกูลของชาร์ลส์เอง เป็นบ้านที่ชาร์ลส์เคยอาศัยอยู่แต่เล็กแต่น้อย จนเมื่อพ่อของชาร์ลส์เสียชีวิต แอนน์ตัดสินใจออกจากบ้านมาและได้แต่งงานกับนอร์แมน สุดท้ายญาติฝ่ายพ่อก็ตัดสินใจขายบ้านและที่ดินบริเวณนั้นเพื่อแบ่งเงินกัน นอร์แมนจึงตัดสินใจซื้อต่อโดยใส่ชื่อของชาร์ลส์... เป็นความเจ็บปวดลึกๆของชาร์ลส์ที่ในที่สุดเขาต้องพ่ายแพ้ต่ออำนาจทุนนิยมอย่างหลีกเลี่ยงมิได้            ชาร์ลส์ต้องกลับเมืองไทย เวลาเดียวกับทรายก็ได้รับข่าวการเสียชีวิตของคุณหญิงศิริ... ดวงตาที่รู้จักลูกสาวของตัวเองดีว่าทรายในวันนี้ ได้รับเอาเชื้อไฟแห่งความเกลียดชังในอดีตไว้ในทุกอณู เธอจึงแค่เพียงบอกให้ทรายทราบข่าวโดยไม่ต้องการให้ทรายเดินทางกลับเมืองไทย หากข่าวนี้สำหรับทราย มันเหมือนการเปิดประตูสู่การชำระล้างความเจ็บช้ำในอดีต ทรายตัดสินใจเดินทางกลับเมืองไทยทันทีโดยไม่ฟังคำทัดทานของแม่ เวลานั้น บุรีรวมกลุ่มกับเพื่อนคือ ชีวิน พัชระ จ้อย ติ่ง เจตน์ เปิดบริษัทสถาปนิก มีชีวิตเรียบง่ายและสุขสงบจนเมื่อเขาได้พบกับศรุตา ทันทีที่ได้พบหน้า ภาพในอดีตก็ผุดพราย บุรียังคงจดจำความน่ารักไร้เดียงสาของเด็กหญิงทรายในวันนั้นได้ดี...ต่างกับวันนี้...ที่เขาสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลง ไม่เพียงรูปร่างหน้าตาที่สวยสะดุดตาหากแต่ศรุตา มีอะไรบางอย่างที่เขาไม่กล้าเอ่ยให้ใครได้ยินนั่นคือพฤติกรรมที่ทรายกำลังบริหารเสน่ห์กับผู้ชายทุกคน...โดยเฉพาะกับพัชระหลังจากที่ทรายรู้ว่าพัชระคือคู่หมั้นของลูกศร น้องสาวพ่อเดียวกับเธอ...บุคคลที่แย่งทุกสิ่งไปจากเธอและแม่!            ทรายเริ่มต้นเกมชีวิตทันทีโดยการก้าวเข้าไปเปิดตัวกับทุกคนในบ้าน ‘พรหมมาสตร์นารายณ์’ สร้างความงุนงงกับทุกคนแตกต่างกันไป...ศกนั้นออกจะเป็นปลื้มกับลูกสาวคนโตจนออกนอกหน้าเพราะนอกจากบุคลิกที่ดูสวยโก้ ฉลาด ขี้ประจบ ที่สำคัญ ทรายยังพกพาความร่ำรวยเข้ามาในชีวิตขณะที่ฐานะครอบครัวของเขาไม่รุ่งเรืองเหมือนก่อนทรายแม้จะเจ็บเพราะรู้ว่าพ่อแสดงความรักเพราะเห็นทรายเป็นแค่คนที่จะมาเชิดหน้าชูตาและทำประโยชน์ให้หากความเจ็บครั้งนี้น้อยนักเมื่อเทียบกับที่เธอกับแม่เคยได้รับในอดีตความเรียบง่ายและขี้โรคของลูกศรที่ไม่เคยมีอะไรโดดเด่นทำให้เธอถูกแย่งความสำคัญไปได้ในเวลารวดเร็ว...หากด้วยหัวใจแสนซื่อ ลูกศรกลับไม่รู้สึกว่าทรายจะมาเป็นคู่แข่งของเธอ ตรงข้าม เธอกลับรู้สึกดีใจที่จะได้พี่สาวคืนมา ซ้ำยังมองทรายเป็นไอดอลอีกต่างหาก            ส่วนเสาวนีย์ เธอหวาดกลัวและระแวงว่าเม็ดทรายต้อยต่ำจะกลับมาเป็นอัญมณีเลอค่าให้ลูกสาวคนเดียวของเธอหมดความหมาย และยังหวาดกลัวไกลไปกว่านั้นอีกโดยมิกล้าปริปากเพราะตอนนี้คนทั้งบ้านต่างก็รุมล้อมแต่ทราย แม้แต่ ยายทิศ แต้ว เติม บ่าวในบ้านก็ดูจะ ‘เห่อ’ นายสาวคนใหม่เอามากๆ ศรุตาโดดเด่นมากในวันที่เธอได้รับคำชวนจากชาร์ลส์ให้ไปเที่ยวร้าน บี’ส์ บัดดีส์ ที่บุรีกับเพื่อนลงทุนร่วมกันไว้เป็นที่สังสรรค์และหารายได้เสริม เสน่ห์ของทรายถูกใจพัชระเข้าอย่างจัง บวกกับความ ‘จงใจ’ จะมัดใจพัชระให้อยู่หมัดด้วยเหตุผลตรงไปตรงมาคือเธอต้องการให้คนในครอบครัวของพ่อโดยเฉพาะเสาวนีย์กับลูกศรต้องพบกับความสูญเสียเช่นที่เธอกับแม่เคยได้รับ แต่กระนั้น พฤติกรรมของทรายก็มิอาจเร็ดรอดสายตาของชาร์ลส์กับบุรี เพียงแต่ชาร์ลส์ที่รักทรายออกจะเชื่อคำอ้างของทรายที่บอกว่าแกล้งยั่วพัชระเพื่อพิสูจน์ว่าเขาจะรักน้องสาวของเธอจริงหรือเปล่า...ต่างกับบุรีที่รู้สึกว่าทรายมีเป้าหมายซับซ้อนกว่านั้น            บุรีพยายามจะบอกชาร์ลส์ แต่ตอนนั้น ชาร์ลส์ไม่มีกะจิตกะใจจะรับฟังเพราะต้องวิ่งวุ่นต่อสู้ชิงไหวชิงพริบกับ อลัน จาง หลานชายที่นอร์แมนจงใจจะ ‘ปั้น’ ให้เป็นคู่แข่งของชาร์ลส์เพื่อชิงเชิงทางธุรกิจ และขณะนั้นอลันก็กำลังวางแผนเข้าครอบครองโครงการคอนโดริมน้ำ ที่ดินที่เคยเป็นบ้านเกิดของชาร์ลส์ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ อลันเคยได้ครอบครองลิซ่าคนรักเก่าของชาร์ลส์มาแล้ว หลังจากที่ชาร์ลส์เลือกจะตัดลิซ่าออกจากชีวิต... ความต่างของชาร์ลส์กับอลันคือ ชาร์ลส์นั้นเน้นธุรกิจเชิงอนุรักษ์โดยร่วมสร้างฝันกับบุรี ขณะที่เป้าหมายของอลันคือ ‘กำไร’ ซึ่งวิสัยทัศน์อย่างอลัน ย่อมเป็นที่ถูกใจนายทุนอย่างนอร์แมนมากกว่า ชาร์ลส์จึงตกเป็นเครื่องมือของคนทั้งคู่ให้เดินหน้าทำงานอย่างหนัก...หากสุดท้ายชาร์ลส์ก็ถูกทั้งพ่อเลี้ยงและอลันหักหลังอย่างเจ็บแสบ            งานวันเปิดโครงการจึงกลายเป็นการเปิดเกมชีวิตที่ผู้เล่นมีเป้าหมายต่างกันนอร์แมนจัดงานเปิดตัวอย่างอลังการเพื่อให้ชาร์ลส์ตายใจฝ่ายศรุตาก็จงใจจับลูกศรแต่งตัวสวยสะดุดตา เพื่อให้ลูกศรถูกใจชาร์ลส์บ้างเพราะชาร์ลส์จะได้ไม่สนใจเธอมากนักในเวลาที่เธอต้องการอ่อยเหยื่ออย่างพัชระให้ติดกับ...ศรุตาประมาทนักเพราะคิดว่าอย่างไรเสีย ชาร์ลส์ก็ไม่มีวันปันใจจากเธอไปสนใจผู้หญิงจืดชืดอย่างลูกศร...แต่ผิดคาด...เพราะมิจฉาทิฐิของทรายได้กลายเป็นการพรวนดินปลูกต้นรักให้ทั้งชาร์ลส์และลูกศร...และจากวันนั้น...ความรักของทั้งคู่ก็พัฒนา...โดยที่ทรายไม่รู้เลยว่าเธอกำลังจะสูญเสียผู้ชายที่เคยรักเธอมากที่สุดไป !จากนั้น อลันก็วางแผนให้ลิซ่าหลอกชาร์ลส์ให้ติดเรือยอชต์ออกไปที่ทะเลไกลโพ้น เพื่อที่เขากับนอร์แมนจะได้ทำการเปลี่ยนโครงสร้างโครงการใหม่เพื่อเอื้อประโยชน์ให้พวกพ้องขณะที่บุรีก็พาลูกน้องออกไปพักผ่อน โดยมีทรายกับลูกศรร่วมทางไปด้วย ในเรือ บุรีพยายามพูดเตือนสติทรายให้ล้มเลิกความคิดผิดๆเสีย หากแต่ทรายวันนี้ กลายเป็นทรายสีเพลิงที่ไม่มีความดีใดๆจะเข้าถึงจิตใจของเธอได้อีกแล้ว...ทรายเดินหน้ายั่วยวนพัชระจนหลงไหล แล้วถอยฉาก ยิ่งยั่วให้พัชระอยาก จนถึงขั้นหลงละเมอเพ้อพก            ชาร์ลส์เจ็บหนักจากการถูกหักหลัง...ความฝันของเขาที่จะอนุรักษ์แผ่นดินแม่ไว้ต้องพังทลาย โครงการในฝันต้องตกอยู่ในมือนายทุนต่างชาติสมบูรณ์แบบ เสียใจที่สุดคือแอนน์แม่ของเขาเองที่พลอยรู้เห็นเป็นใจกับสามีเพียงเพื่อจะเอาตัวรอด คนที่เขาคิดถึงมากที่สุดยามที่หัวใจบอบช้ำคือศรุตา ผู้หญิงที่เขารักและหวังว่าจะแต่งงานด้วย แต่เวลานั้น ศรุตาที่หมดสนุกกับการยั่วให้พัชระหลง เริ่มจะหันมาทำตามความต้องการของหัวใจเพราะลึกๆแล้ว...ศรุตายอมรับว่า ผู้ชายคนเดียวที่เธอพึงใจมาตลอดตั้งแต่ยังเยาว์ คือ บุรี หลังกลับจากเรือท่องเที่ยว บุรีต้องเดินทางไปประชุมด่วนที่สิงคโปร์ ทรายวางแผนทิ้งลูกศรไว้ที่โรงแรมและบินตามบุรีไปทันทีหมายจะเผด็จศึก ผูกมัดบุรีเหมือนที่เคยทำกับชาร์ลส์ ทำให้เวลานั้น ชาร์ลส์ที่จะมาหาทราย ได้พบเพียงลูกศรที่อยู่เป็นเพื่อนปลอบใจ ความน่ารัก ใสซื่อและเป็นธรรมชาติของลูกศรทำใจของชาร์ลส์หวั่นไหว ลูกศรเองก็มีความสุข รู้สึกว่าตัวเองมีค่าที่ช่วยเป็นเพื่อนคลายทุกข์ให้ชาร์ลส์ได้            ฝ่ายบุรี...แม้จะพึงใจในตัวทรายไม่น้อยไปกว่าชายอื่นหากความรู้ผิดชอบชั่วดีเพราะบุรีนั้นรู้ดีว่าทรายคือคนที่ชาล์รส์หมายปอง และการรู้ทันเล่ห์เหลี่ยมของทราย ทำให้บุรีปฏิเสธทรายในวินาทีที่ทรายตัดสินใจแล้วที่จะมอบกายให้ชายที่เธอรัก ทรายเจ็บเกินเจ็บ อายสุดอาย เพราะการผลักไสด้วยวาจาและท่าทีแสนสุภาพนั้นไม่ต่างอะไรกับคมมีดที่กรีดลึกลงตรงกลางใจจนขาดวิ่นไม่มีชิ้นดีขณะที่ความสัมพันธ์ของชาร์ลส์และลูกศรเดินหน้าไป ด้วยใจบริสุทธิ์ที่ลูกศรเพียงปรารถนาให้ชายที่เธอรักเป็นสุข...เธอจึงยอมมอบกายให้ชาร์ลส์อย่างเต็มใจในคืนเดียวกับที่ทรายถูกบุรีปฏิเสธ !            ทั้งสอง ต่างผ่านชั่วโมงเสน่หาไปด้วยความรู้สึกรักที่ก่อเกิดในใจอย่างเงียบงัน...ไร้เงื่อนไขใดๆพัชระที่แน่ชัดใจตัวเองว่ารักศรุตา เข้าพบศกกับเสาวนีย์เพื่อขอถอนหมั้นกับลูกศร ทั้งสองผิดหวังเสียใจมากหากสิ่งที่ทำให้เสาวนีย์แทบกระอักออกมาเป็นเลือดคือคำสารภาพของพัชระที่บอกว่ารักและต้องการแต่งงานกับทราย...ทุกคนตกใจกับการตัดสินใจของพัชระ หากคนที่ตกใจยิ่งกว่าคือพัชระเพราะคำตอบของทรายคือเธอไม่เคยรักและคิดจะแต่งงานกับพัชระเลย คำพูดตรงๆของทรายทำให้พัชระรู้เช่นเห็นชาติผู้หญิงใจร้ายที่ทำให้เขาต้องหน้าแตกและเสียใจที่ต้องเสียผู้หญิงดีๆอย่างลูกศรไป ทรายที่คิดว่าตนกำลังกำชัยชนะ รีบนำข่าวร้ายเรื่องพัชระถอนหมั้นไปบอกกับลูกศร แต่แล้ว...ทรายก็ต้องเซซวดกลับออกไปไม่เป็นท่าเมื่อเมื่อลูกศรไม่มีทีท่าเสียใจเลยจนนิด เป็นโจทย์ใหม่ของทรายที่ต้องตามล่าหาความจริงว่า...อะไร? ทำให้ผู้หญิงอ่อนแออย่างลูกศรยืนหยัดอยู่ได้ทั้งที่ควรจะแดดิ้นตายเมื่อรู้ข่าว แล้ววันหนึ่ง...ทรายก็ได้รู้ว่าคนที่อยู่เบื้องหลังพลังใจทั้งหมดของลูกศรคือชาร์ลส์!            ความเจ็บใจ แค้นใจประเดประดัง และทรายไม่มีทางยอมให้ผู้หญิงไร้ค่าอย่างลูกศรได้ครอบครองคนดีที่เคยรักเธอเหมือนดวงใจ เคยเห็นเธอเป็นที่หนึ่งอย่างชาร์ลส์...ทรายวางแผนทำลายหัวใจลูกศรให้สิ้นซากด้วยการเก็บชุดนอนและเครื่องแสดงความผูกพันของเธอที่เคยมีต่อชาร์ลส์ลงกระเป๋าย่องเข้าไปคอนโดของชาร์ลส์ในคืนหนึ่งที่ทรายรู้ล่วงหน้าอยู่แล้วว่าลูกศรจะต้องขับเรือไปหาชาร์ลส์ และทุกอย่างก็เป็นไปตามแผน ทรายบุกเข้าไปหาชาร์ลส์ ขณะรู้ว่าลูกศรกำลังตามมา ลูกศรพบซากสัมพันธ์ที่ทรายจงใจจัดฉากก่อนจะเข้าไปเห็นภาพที่ทรายกับชาร์ลส์กำลังโอบกอดพร่ำพรอดกันโดยไม่รู้ว่าเป็นการบุกอยู่ฝ่ายเดียวโดยที่ชาร์ลส์ไม่ทันตั้งตัว...และลูกศรก็ตกเป็นเหยื่อแผนสกปรก...หัวใจบอบบางของลูกศรฉีกขาดไม่มีชิ้นดีเมื่อเข้าใจว่าคนที่เธอรักมากทั้งสองคนร่วมมือกันทรยศเธอ...ลูกศรกลับมาเป็นคนอ่อนแออีกครั้ง...เธอวิ่งหนีออกจากคอนโดและขับเรือหนีไปอย่างคนหัวใจแหลกสลาย           ชาร์ลส์ตามมาแต่ไม่ทัน เรือเกิดอุบัติเหตุพลิกคว่ำ...ร่างลูกศรจมดิ่งลงน้ำ...กว่าจะหาตัวเธอพบ...ลูกศรก็กลายเป็นศพ เป็นร่างไร้วิญญาณไปแล้ว...การจากไปของหญิงสาวผู้น่าสงสาร...ทิ้งรอยอาลัย...ทิ้งหัวใจที่ตายแล้วไว้ให้กับชาร์ลส์และเสาวนีย์ผู้เป็นแม่ที่เสียใจจนกลายเป็นคนคุ้มดีคุ้มร้าย...ชาร์ลส์แสดงอาการชิงชังรังเกียจทรายอย่างไม่เหลือเยื่อใยไมตรี...เสียงกร่นด่าจากทุกคนที่รุมประณามทรายว่าเป็นผู้หญิงใจร้าย เป็นหญิงแพศยา เป็นซาตาน....หากไม่มีเสียงใด บาดหัวใจทรายเท่ากับเสียงของบุรีที่เริ่มต้นด้วยความเข้าใจและเห็นใจในอดีตของทราย...หากเขาก็จบคำพูดลงตรงการร้องขอให้ทรายไปเสียจากชีวิตทุกคน! ศรุตา ผู้ที่ก้าวมาพร้อมความทระนง มีเป้าหมายที่ชัยชนะ ยามนี้เหมือนคนที่ตายทั้งเป็น...ความตายของลูกศรแม้จะเกินความตั้งใจที่เธอต้องการจะให้เป็น...แต่มันก็ได้ตอบสนองความคิดชั่วร้ายของเธอแล้วอย่างไม่อาจกลับไปแก้ไขอะไรได้เลย...ศรุตาตัดสินใจบินกลับไปยังบ้านเมืองที่เธอจากมา...หากในหัวใจที่ยังมีรัก...ต่อผู้ชายที่เคยซับน้ำตาให้เธอ...เธอจึงให้สัญญากับตัวเองว่าจะพยายามอย่างสุดใจเพื่อจะเปลี่ยนเป็นคนใหม่และต่อจากนี้ไปเธอจะเป็นฝ่ายรอคอยเพื่อจะได้มีโอกาสกลับมาเป็นผู้หญิงที่รักของ ‘เขา’ ... เมื่อวันที่เพลิงในใจเธอได้มอดไหม้สนิทลงแล้วจริงๆ...

-อ่านต่อ- http://gossipstar.mthai.com/tv-content/44080
แหล่งที่มา http://gossipstar.mthai.com/tv-content/44080

รักต้องอุ้ม

รักต้องอุ้ม ละครรักต้องอุ้ม
แหล่งที่มา http://gossipstar.mthai.com/tv-content/45734

รักต้องอุ้ม รักต้องอุ้ม บทประพันธ์ : เพชรไพลิน บทโทรทัศน์ : เบญจธารา กำกับการแสดง : แมน เมธี ออกอากาศ : ทุกวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ เวลา 20.15 น.ช่อง 3           “เราจะเป็นเพื่อนกันตลอดไป สิปาดัน กับ ลันตา ต่างรักษาคำสัญญามายาวนานนับสิบปี แม้ว่าลึกๆ เพื่อนสนิทจะแอบคิดไม่ซื่อต่อกันก็ตาม แต่เมื่อกามเทพตัวน้อยหล่นปุ๊ลงมาล็อคหัวใจทั้งคู่ให้เป็นหนึ่งเดียวกัน เมื่อหัวใจไม่อาจเก็บความรู้สึกไว้ได้ต่อไป แต่คำสัญญาแห่งมิตรภาพค้ำคอ หนึ่งมิตรอย่างสิปาดัน ต้องฟิตให้หนักถ้าคิดจะคว้ารักครั้งนี้มาครอง”            ชีวิตของนางสาว ลันตา อยากมีสุข กำลังจะLucky in game เมื่อการทำงานเข้าตาและจะได้พิจารณาขึ้นเป็นผู้ช่วยบรรณาธิการนิตยสาร Trendy แถมยังจะ Lucky in love เพราะอนุชิต ผู้บริหารหนุ่มสุดหล่อมีอาการปิ๊งปั๊งลันตา จนเห็นว่าเป้าหมายระฆังวิวาห์คงอีกไม่ไกล ท่ามกลางความดีใจของธัญญาเรศ สไตลลิสท์ และแพท เจ้าหน้าที่ศิลปกรรม แก๊งเพื่อนซี้ของลันตา ในที่สุดลันตาก็มั่นใจจะลบอาถรรพ์นามสกุลที่ได้แต่อยาก แต่ไม่เคยมีสุขลงได้ในครั้งนี้เป็นแน่ วันที่บรรณาธิการบริหารเรียกไปพบ ลันตาตื่นเต้นรีบมาแต่เช้าเห็นท่าทีของคนในออฟฟิศที่จับจ้องมาก็ยิ่งมั่นใจว่าทุกคนรู้แล้วว่าลันตากำลังจะได้เลื่อนขั้น ลันตาแวะไปหาอนุชิตเพื่อเติมความหวานขอกำลังใจ แต่กลับถูกอรขจี ไล่ตบตีออกมาจากห้องอนุชิตพร้อมประกาศกร้าวว่าเป็นภรรยาของอนุชิต เหมือนโดนฟ้าผ่ากลางแสกหน้า ลันตามองอนุชิตอย่างต้องการคำตอบ เมื่อเห็นสีหน้าอ้ำอึ้งปฏิเสธไม่ออก ลันตาก็เข้าใจทุกอย่างได้อย่างทะลุทะลวง แล้วความโกรธก็ล้นทะลักจนต้องรีบพาตัวลันตาออกจากที่เกิดเหตุอย่างเร่งด่วนโดยมีธัญญาเรศอาสาอยู่เคลียร์ทุกอย่างให้เอง เมื่อหลุดพ้นจากความวุ่นวายมาสงบสติยังร้านประจำได้ลันตาก็น้ำตาแตกโดยมีแพทคอยปลอบใจตั้งแต่เย็นยันดึก            ลันตารู้ว่าแพทมีงานที่ต้องทำในเช้าวันรุ่งขึ้น ลันตาให้แพทกลับไป และยืนยันว่าตอนนี้มีสติมากพอ แพทที่รู้นิสัยลันตาดีเห็นอาการมีสติของลันตาก็วางใจและยอมกลับไป ลันตาตั้งสติและก้าวขึ้นรถ ขณะที่กำลังจะขับออก จู่ๆ รปภ.จุกก็วิ่งมาตบฝากระโปรงปัง! จนลันตาตกใจและยิ่งตกใจหนักขึ้นเมื่อรปภ.บอกว่ามีกล่องแปลกปลอมอยู่ใต้ท้องรถ รปภ.จุกมั่นใจมากว่ามันต้องเป็นระเบิดอย่างแน่นอน รปภ.จุกที่ดูข่าวและซีรี่ย์มามากมายบิ้วท์ซะจนลันตาตกใจกลัวมากจนไม่กล้าลงจากรถ ผู้คนเริ่มทยอยกันเข้ามามุงดู ทั้งรปภ.จุก เด็กรับรถ และเจ้าของร้านที่ปรี่กันออกมาพยายามหาทางช่วย ลันตากลัวจนสติแตกจะทำอะไรก็ทำ ทำเดี๋ยวนี้! รปภ.จุกพยายามคิดอาสาจะหยุดระเบิดครั้งนี้เอง ด้วยความมั่นใจว่าความรู้ที่ศึกษาจากซีรี่ย์นับสิบเรื่องจะต้องช่วยได้แน่นอน ลันตาอยากจะบ้าตายมองสภาพรปภ.จุกแล้วได้แต่สวดมนต์ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วย แต่ก่อนที่ลันตาจะช็อคตายเพราะความลุ้น              เสียงนาฬิการะเบิดเวลาก็ดัง อุแว้! ออกมาสร้างความตะลึงให้กับทุกคนในเหตุการณ์ รปภ.ตัดสินใจเสี่ยงตายลากกล่องออกมาและพบว่าในกล่องนั้นคือ เด็กทารก! ทารกเพศชาย หน้าตาน่ารัก ที่แค่เพียงแรกเห็นลันตาก็รู้สึกเอ็นดูถูกชะตาในทันที ลันตาใจหายใจคว่ำที่เกือบจะกลายเป็นฆาตกรฆ่าทารกน้อย รปภ.จุกและผู้คนที่พากันมามุงดูต่างพากันวิเคราะห์หาสาเหตุที่เด็กมาถูกทิ้งอยู่แบบนี้ แล้วทุกคนก็ลงความเห็นว่าคนที่เอามาทิ้งใจเหี้ยมจริงคงหวังให้เด็กถึงตาย โหมดแม่พระในตัวลันตาทำงานทันที เมื่อรปภ.จุกจะเอาเด็กน้อยไปแจ้งความเพื่อตามหาแม่ตัวจริง พอได้ยินปุ๊บ ลันตาก็ตัดสินใจโพล่งออกมาว่าทันทีว่า ลูกแม่! ทุกคนอึ้งต่างมองลันตาที่จุดเดียว ลันตาสวมบทบาทแม่ใจร้ายที่สำนึกผิดขอให้มอบเด็กคืนมา พวกรปภ.มองอย่างไม่เชื่อแต่ลันตาตาไวพอที่จะเห็นว่าก้นซ้ายของทารกมีปานดำอยู่ก็ตีเนียนเอามาอ้างและอาศัยประสบการณ์เล่นละครในมหาวิทยาลัยเปิดฉากดราม่าจนไทยมุงต่างเชื่อสนิทยอมให้ลันตาพาทารกน้อยกลับมาด้วยจนได้            แต่การตัดสินใจอย่างบ้าระห่ำครั้งนี้มันตามมาด้วยปัญหาใหญ่ระดับชาติในครอบครัวอยากมีสุขของลันตา คุณย่ามาลัย อดีตสาวชาววัง กุลสตรีไทยเต็มตัว เจ้าระเบียบและเฮี้ยบกับเรื่องที่ถูกต้องเหมาะสมตามขนบธรรมเนียมไทยแบบเคร่งครัดรัดติ้วที่สุด จนสาวเฮี้ยวอย่างลันตากับเพื่อน ๆ ต้องคอยทำตัวเป็นลิงหลอกเจ้าเอาตัวรอดอย่างฉิวเฉียดเสมอ ๆ เพราะเรดาห์จับความเป็นกุลสตรีไทยของคุณย่ามาลัยนั้นได้ชื่อว่าแม่นยำมาก ความดุและความระเบียบจัด ของคุณย่ามาลัยขึ้นชื่อลือชาจนเพื่อนๆ ของลันตาต่างพร้อมใจกันแอบให้ฉายา (ลับหลัง) ว่า คุณย่ามหาประลัย การพาทารกเข้าบ้านครั้งนี้ลันตาคงต้องเจอศึกหนักและลงท้ายด้วยการพาทารกน้อยไปให้ตำรวจ แต่ลันตาห่วงเด็กมากจึงคิดหาที่พึ่งที่พร้อมจะแก้ปัญหาและร่วมเป็นร่วมตายกับลันตาในเวลาเช่นนี้และคนแรกกที่ลันตานึกถึงคือ เพื่อนรัก...            คอนโดหรู...ลันตาถือวิสาสะหยิบกุญแจสำรองที่ซ่อนประจำอันเป็นที่รู้กันระหว่างเธอกับเพื่อนรัก แต่ลันตาต้องขนลุกซู่ที่ได้เห็นฉากเลิฟซีนแบบจัง ๆ ตรงหน้า เมื่อเพื่อนรักอย่าง สิปาดัน นักบินโคไพลอตเจ้าเสน่ห์กำลังนัวเนียกับแอร์โฮสเตสสาวสายการบินเดียวกันราวกับหูหนวกตาบอดไม่ได้ยินเสียงการมาของลันตาเลยสักนิด เมื่อทุกอย่างทำท่าจะเลยเถิดจนกลายเป็นหนังสด ลันตาก็ตัดสินใจหยุดเลิฟซีนด้วยการอุ้มลูกเข้ามาประกาศตัวว่าเป็นเมียของสิปาดัน และเล่นบทเมียหลวงแสนรันทดจนสิปาดันไม่มีโอกาสแก้ตัวและได้รับฝ่ามือพิฆาตจากแอร์โฮสเตสสาวสวยจนเป็นรอยห้านิ้วประทับเต็มๆ ก่อนจะด่าทิ้งท้ายจนสิปาดันไม่เหลือดี            หลังบุคคลที่ 3 ออกจากห้องไป สิปาดันก็หันมาหวังจะฉะลันตา แต่คนที่โดนฉะกลับเป็นสิปาดันซะเอง ลันตาอบรมความเจ้าชู้ที่เปลี่ยนผู้หญิงไม่ซ้ำ พูดลามไปถึงเรื่องโรคร้าย เสื่อม....สิปาดันเหมือนโดนฮุคซ้ายฮุคขวาและถูกอัปเปอร์คัท สิปาดันจุกเถียงไม่ออกและเกือบจะโดนชุดสองถ้าไม่รีบเบรกด้วยการเปลี่ยนเรื่องถามถึงทารกน้อยในอ้อมแขนของลันตา เมื่อรู้ที่มาของทารกน้อย สิปาดันได้ทีร่ายชุดใหญ่ถึงความขี้สงสารของลันตาที่มักจะนำเรื่องเดือดร้อนตามมาเสมอ แม้ลันตาจะพยายามจะแย้งแต่อดีตผู้จัดการชมรมฟุตบอลหรือจะเอาชนะกัปตันทีมจอมเฮี้ยวได้ เพราะลันตากับสิปาดันเป็นทั้งคู่หู คู่ฮา คู่กัดตั้งแต่สมัยมัธยม โดยมีสิปาดันเป็นกัปตันทีม ลันตาอาสาเป็นผู้จัดการ แม้จะเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียว แต่ลันตาไม่เรื่องมาก หรือเซ้าซี้ขี้งอนอย่างที่คนอื่นเป็น อดทนกับงานหนัก และดูแลทุกคนอย่างเท่าเทียม มีน้ำใจเสมอ ความดีของลันตาทำให้ทุกคนในทีมให้เกียรติและไม่มีใครกล้ารุ่มร่ามกับลันตาสักคน สิปาดันกับลันตาต้องช่วยกันวางแผน ทำทุกอย่างเพื่อให้ทีมไปแข่งในระดับประเทศได้สำเร็จทำให้ทั้งคู่สนิทและเป็นเพื่อนรักที่จะไม่มีวันทิ้งกัน ทั้งคู่ไม่เคยเอาความเป็นผู้ชายผู้หญิงมาทำให้ความสัมพันธ์มีปัญหา มีแต่ความห่วงใยที่สามารถด่าเตือน ลงไม้ลงมือกันได้เพราะรู้ว่าทำด้วยความหวังดี เมื่อลันตาเสียพ่อกับแม่ไปในอุบัติเหตุ สิปาดันคือคนแรกที่เข้ามาดูแลห่วงใยลันตาจนกลายเป็นความเคยชินที่ทำให้สิปาดันคือคนแรกที่ลันตานึกถึงเสมอ และครั้งนี้ลันตาก็เชื่อว่าสิปาดันจะต้องยอมช่วยลันตาอีกครั้ง              ลันตาพยายามชักแม่น้ำทั้งห้า กล่อมให้สิปาดันช่วยดูแลเด็กทารกเพราะลันตาพากลับบ้านไม่ได้ ลันตาพยายามจะให้เหตุผลหนักแน่นว่าการที่ทารกน้อยถูกวางอยู่ท้ายรถแบบนั้น เป็นการจงใจฆาตกรรม หากส่งคืนไป เด็กจะต้องตกอยู่ในอันตราย แล้วถ้าเด็กเป็นอะไรไปลันตากับสิปาดันจะต้องรู้สึกผิดไปชั่วชีวิต สิปาดันยังปฏิเสธ ลันตาหว่านล้อมผสมดราม่าจนสิปาดันฟังแล้วต้องยอมแต่ยอมช่วยแค่คืนเดียวแล้วพรุ่งนี้จะเอาเด็กไปแจ้งความ ตามหาพ่อกับแม่ให้เจอ ลันตาขับรถกลับมาด้วยความสบายใจว่าอย่างน้อยวันนี้ก็ผ่านไป แต่ยังไม่ทันถึงบ้าน มิ้งค์ รุ่นน้องที่มหาวิทยาลัยที่เคยมาฝึกงานกับลันตา มิ้งค์กำลังจะจบมหาวิทยาลัย ชื่นชมและมุ่งมั่นมาจะมาทำงานที่เดียวกับลันตาให้ได้ ทันที่ที่รู้ข่าวลันตาออกจากงานก็รีบฮอทไลน์สายด่วนมาหา ลันตาได้เจอกับมิ้งค์ ลันตายังเล่าเรื่องระทึกที่เจอไม่ทันจบ สิปาดันก็กระหน่ำโทรมาหาเพราะทารกน้อยร้องๆ ๆ ๆ ๆ จนพอล หนุ่มลูกครึ่งข้างห้องของสิปาดันที่เพิ่งย้ายเข้ามาใหม่ ทนไม่ไหวจะมาโวยวายแต่กลับต้องมาช่วยสิปาดันที่หัวหมุนกับการดูแลเด็กอย่างตกกระไดพลอยโจนแต่ชายโสดสองคนที่เป็นลูกโทนก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากโทรขอความช่วยเหลือจากลันตาโดยด่วนที่สุด ลันตาต้องรีบกลับไปช่วยดูแลเด็กโดยมีมิ้งค์ที่ติดรถไปด้วย ทันทีที่ไปถึงสิปาดันกำลังขอโทษเพื่อนบ้านคนอื่น ๆที่มาต่อว่าเพราะเสียงทารกน้อยดังมาก โดยมีพอลอุ้มเด็กไว้อย่างเก้ๆ กัง ๆ มิ้งค์กลายเป็นนางฟ้าที่ช่วยทำให้ทารกน้อยเงียบราวกับใช้มนต์เสก เพราะครอบครัวมิ้งค์มีพี่น้องหลายคน มิ้งค์เป็นพี่สาวคนโตที่ต้องเลี้ยงน้องถึงสามคน ความเชี่ยวชาญในการเลี้ยงเด็กจึงเป็นความสามารถพิเศษที่ช่วยให้ลันตากับสิปาดันรอดพ้นภาวะลำบากมาได้ แต่โลกนี้คงแคบมาก เมื่อปรากฎว่ามิ้งค์กับพอลคือคู่แค้นตั้งแต่สมัยประถมที่เจอกันทีไรเป็นอันต้องมีเรื่อง มิ้งค์กับพอลเกือบจะเปิดศึกใส่กันแต่ช้ากว่าสิปาดันที่อารมณ์ใกล้ระเบิดเต็มที พอลเห็นบรรยากาศเริ่มไม่ดีรีบชิ่งไปอย่างเนียน ๆ ลันตาไม่อยากให้มิ้งค์เห็นภาพไม่สวยงามของตนเองจึงให้มิ้งค์กลับไปก่อนที่สิปาดันเริ่มเปิดศึก สิปาดันสั่งเด็ดขาดว่าต้องเอาเด็กไปแจ้งความเดี๋ยวนี้! สิปาดันไม่อดทนอีกต่อไปแล้ว             ที่โรงพักลันตาใจไม่แข็งพอที่จะเป็นคนเอาเด็กไปมอบให้กับตำรวจ สิปาดันจึงต้องรับหน้าที่นั้นเอง หลังแยกย้ายจากกัน ลันตาทำใจไม่ได้ด้วยความเป็นห่วงทารกน้อย ลันตาตัดสินใจขับรถกลับมาที่โรงพัก แต่เมื่อมาถึงกลับไม่มีใครเห็นเด็กทารกเลยสักคน ลันตาตามหา เดินถามไปทั่วแต่ก็ไม่พบ จนตำรวจสงสัยในท่าทีลันตาและเริ่มคิดว่าลันตาเป็นพวกต้มตุ๋น ลันตาต้องรีบเผ่นออกมาแล้วติดต่อสิปาดันทันที แค่สิปาดันบอกว่าที่ตำรวจไม่รู้เพราะสิปาดันไม่ได้เอาเข้าไปแจ้งความแค่ไปวางไว้ด้านหน้าโรงพัก ลันตาก็ไม่ฟังอะไรทั้งสิ้นพุ่งไปหาสิปาดันที่คอนโดทันที แต่ก่อนจะเปิดฉากด่าสิปาดันก็รีบเฉลยว่าสิปาดันแอบไปรับเด็กกลับมาก่อนหน้าแล้ว ลันตาดีใจมากและประกาศจะเลี้ยงทารกน้อยไว้ สิปาดันกับลันตาต่อรองกันอย่างดุเดือด ลันตาพูดจี้เข้าไปถึงมโนธรรมของสิปาดัน อ้อนวอนทุกอย่างจนทำให้สิปาดันต้องยอมตกลงเลี้ยงทารกน้อยตามที่ลันตาต้องการ...             และแล้วภารกิจสุดหินก็เริ่มขึ้น ลันตากับมิ้งค์พยายามหาข้อมูลในการเลี้ยงดูทารกวัย 4 - 5 เดือนให้ได้ ทั้งจากเว๊บไซค์และถามจากผู้คนที่มีประสบการณ์ ต้องผ่านสถานการณ์ในแต่ละวันไปให้ได้ อย่างโกลาหลวุ่นวาย ทุกคนต้องสลับกันอุ้มเวลาร้อง ป้อนนมเวลาตื่นจนตาคล้ำบวม ดำเป็นหมีแพนด้า ทั้ง 3 คน ลันตาและมิ้งค์ เรียกทารกน้อยว่าตาหนู ลันตาเรียกตัวเองว่า แม่ลันดา และบังคับให้สิปาดัน ให้ทำตัวให้อบอุ่น และเป็นพ่อให้ได้ สิปาดันโวยวายว่า บ้าไปกันใหญ่ เค้าอยากมีแค่กุ๊กกิ๊กกับสาว ๆ แต่ไม่ต้องการมีลูก ชั่วข้ามคืนแบบนี้ แต่ต้องถูกลันดาบังคับ จนสิ้นสภาพหนุ่มกรุ้มกริ่มเจ้าเสน่ห์ไปทันที และพอลก็ขยันวนเวียนเอาเสบียงมาส่งไม่ซ้ำเมนู ทั้งอาหารและเบเกอรี่สุดกรี๊ด เพราะพอลเป็นเชฟและเจ้าของร้านอาหารสุดเก๋ที่กำลังอยู่ในกระแสตอนนี้ มิ้งค์มองอย่างจับผิดเพราะมั่นใจว่าพอลตั้งใจมาจีบลันตา แต่สิ่งที่ลันตาสังเกตเห็นคือ คนที่พอลให้ความสนใจคือมิ้งค์ ลันตาจะล้วงความในใจของพอลแต่พอลปากแข็ง ลันตาไม่เซ้าซี้เพราะการกระทำมันเห็น ๆ กันอยู่ ส่วนทารกน้อยตอนนี้กลายเป็น ตาหนู ของพ่อสิปาดันและแม่ลันตาไปแล้ว             สิปาดันเสนอว่าลันตาต้องมาค้างที่นี่อาทิตย์ละสามถึงสี่วันเพราะงานสิปาดันต้องไปบินอยู่บ่อยๆ ลันตาต้องวางแผนในการขออนุญาตจากคุณย่ามาลัย ลันตาที่ตอนนี้อยู่ในสภาพตกงานร้อยเปอร์เซ็นต์ต้องวางแผนหางานที่เหตุผลหนักแน่นพอที่จะสามารถทำให้คุณย่ามาลัยเชื่อได้อย่างสนิทใจ ลันตาตัดสินใจสารภาพว่าลาออกจากงานแล้วและตั้งใจจะเริ่มอาชีพใหม่ที่ลันตาใฝ่ฝันมานาน นั่นคือเชฟเบเกอรี่ และลันตาต้องไปทำงานที่ร้านอาหารเพื่อฝึกฝีมือ การฝึกหนักมากจึงต้องย้ายไปอยู่ใกล้ๆ กับที่ร้านอาหาร คุณย่ามาลัยจะทักท้วงแต่คนที่เข้ามาช่วยไว้ได้ทันท่วงทีคือธัญญาเรศ ทั้งคู่ต่างมาไว เคลมไว แล้วรีบลี้ภัยออกจากบ้านก่อนที่คุณย่ามาลัยจะล็อคคอรีดเค้นเอาความจริงได้ทัน ธัญญาเรศพยายามคาดคั้นถึงสาเหตุที่ต้องโกหก ลันตาเล่าเรื่องตาหนูให้ฟัง ธัญญาเรศบอกให้ลันตาเอาเด็กไปแจ้งความซะ แต่ลันตาเมื่อตัดสินใจแล้วช้างก็ฉุดไม่อยู่ ลันตากำชับกับธัญญาเรศว่าห้ามบอกกับคุณย่าเกี่ยวกับเรื่องนี้                ลันตาเริ่มต้นการเป็นคุณแม่มือใหม่ ด้วยการหาข้อมูลจากทุกทิศทุกทาง อย่างกระตือรือร้นด้วยความรู้สึกสนุกสนาน ทางฝั่งสิปาดันต้องปวดหัวกับอาการงอแงของตาหนูและที่สุดจะรับมือไหวก็คือการปล่อยระเบิดปลาวาฬ(อึ)ใส่สิปาดัน สิปาดันอาละวาดและแทบหมดความอดทน ลันตาเป็นฝ่ายใจเย็นและค่อย ๆ เรียนรู้การเลี้ยงดูตาหนู พร้อมกับชี้ให้สิปาดันเห็นถึงความน่ารักของตาหนู แต่ตอนนี้สิปาดันหมดอาลัยตายอยากในชีวิต เพราะการได้ตาหนูเข้ามาต้องแลกกับการเสียชีวิตหนุ่มโสดแสนฮอตจนสิปาดันกลายเป็นเพลย์บอยไร้น้ำยา สาวๆ พากันชิ่งไปจากสิปาดัน ยิ่ง มะนาว สาวแอร์โอสเตสคนใหม่แต่เคยอยู่ในตำแหน่งแฟนเก่าของสิปาดันปรากฎตัวขึ้น ความสวย และเสน่ห์ล้นเหลือของมะนาวทำให้สิปาดันร่ำ ๆ จะกลับไปสานสัมพันธ์หลายครั้งแต่เพราะมีตาหนูกับลันตาอยู่ทำให้ชีวิตอิสระของสิปาดันเหมือนคนติดคุก               สิปาดันเครียดมากต้องไปเฮฮานอกบ้านแทบหัวทิ่มกลับบ้านไม่ไหว จนกีรติ นักเขียนหนุ่มไฮโซที่งานเขียนติดอันดับเบสท์เซลเลอร์และความหล่อก็เข้าตาสาว ๆ จนกรี๊ดกันทั่วบ้านทั่วเมืองในตอนนี้ต้องพากลับมาที่บ้าน กีรติเป็นเพื่อนซี้ของสิปาดันตั้งแต่มหาวิทยาลัย เรียกได้ว่ารู้ไส้รู้พุง รู้ทุกความคิดและความเคลื่อนไหวของสิปาดันมาตลอด เมื่อสิปาดันกลุ้มใจกับเรื่องตาหนู กีรติจึงต้องรับฟังการปรับทุกข์และเป็นคนพาสิปาดันที่หมดสภาพมาส่งที่คอนโด ทันทีที่กีรติได้เห็นลันตาก็รู้สึกปิ๊งในความน่ารัก แต่เมื่อได้พูดคุยก็ยิ่งชอบ เพราะไม่ว่าจะพูดอะไรไปลันตาก็เข้าใจและตอบโต้กลับมาได้ดี ทำให้รู้สึกอยากจะรู้จักลันตาให้มากกว่านี้ ลันตารับรู้ได้จากการแสดงออกอย่างเปิดเผยของกีรติ กีรติอัธยาศัยดีและไม่จู่โจม ทำให้ลันตาไม่รู้สึกต่อต้านและยินดีที่จะมีเพื่อนใหม่อย่างกีรติเพิ่มขึ้นอีกคน แต่สิ่งที่ลันตากำลังกลุ้มใจคืออาการเกลียดเด็กของสิปาดันที่ค่อนข้างจะหนักพอสมควร ลันตาได้เห็นข่าวว่าลูกชายของอนุชิตวัย 5 เดือนหายตัวไป ลันตายังไม่ทันฟังต่อธัญญาเรศก็ปิดโทรทัศน์บอกว่าอย่าไปสนใจผู้ชายเลว ๆ แบบนั้น เอาเวลาไปเลี้ยงลูกดีกว่า ลันตาไม่ติดใจสงสัยอะไร ลันตาพยายามเหลือเกินที่จะให้สิปาดันญาติดีกับตาหนู พยายามจะสร้างสายใยสอนให้ตาหนูเรียกสิปาดันว่า พ่อ เรียกตนเองว่าแม่ แม้สิปาดันจะเครียดแสนเครียดที่ชีวิตต้องพลิกผันเช่นนี้แต่ความน่ารักของตาหนูก็ค่อยๆ เปลี่ยนความรู้สึกของสิปาดันให้ค่อยๆ เป็นมิตรมากขึ้น และกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตสิปาดันอย่างช้าๆ เมื่อหนุ่มร่างใหญ่กับเจ้าตัวเล็กกลายเป็นคู่หูทำให้ลันตาที่มองว่าสิปาดันเป็นผู้ชายเจ้าชู้ที่อยู่นอกสายตา ความน่ารักปนฮาของสิปาดันค่อย ๆ ไต่ขึ้นมาทำคะแนนในหัวใจลันตาอย่างช้า ๆ โดยมีมิ้งค์คอยเชียร์สุดใจเพราะไม่อยากให้พอลมาวอแวกับลันตา               ลันตามัวแต่วุ่นวายกับตาหนูจนลืมความเป็นจริงว่าตนเองกำลังตกงาน และสิ่งที่เตือนความจำลันตาคือ “หนี้สิน” ค่าผ่อนรถที่ถอยมาใหม่ ค่ากิน ค่าผ้าอ้อมสารพัดค่าใช้จ่ายที่ทำให้เงินเก็บของลันตากำลังร่อยหรอลงทุกที ลันตาจำเป็นต้องออดอ้อนขอความช่วยเหลือจากสิปาดัน แต่สิปาดันปฏิเสธ ลันตาโมโหมากจนเอารถไปคืนไฟแนนซ์ ลันตาน้อยใจสิปาดันที่ไม่มีน้ำใจแต่พอลกับกีรติทำให้ลันตารู้ว่าสิปาดันพยายามหาเงินตามจำนวนที่ลันตาต้องการมาให้ สิปาดันรู้ว่าลันตาเอารถไปคืนไฟแนนซ์ก็ยกรถตัวเองให้ใช้เพราะไม่อยากให้ลันตาลำบาก ลันตารู้สึกผิดที่เข้าใจสิปาดันผิด ลันตาไม่อยากเป็นภาระของสิปาดันจึงเริ่มตะเกียกตะกายหางานใหม่ พอลเสนอให้ลันตาไปช่วยที่ร้าน ลันตาตกลงแต่คนที่ดูจะอยู่เฉยไม่ไหวคือมิ้งค์ ที่แวะเวียนมาที่ร้านจนถึงขั้นมาสมัครทำงานพิเศษเพื่อความสะดวกในการกันท่าพอล หารู้ไม่ว่าเป็นแผนของพอลที่ตั้งใจให้มิ้งค์มาอยู่ใกล้ๆ แต่ความห่วงตาหนูทำให้ลันตาทำได้ไม่นานก็ต้องหางานใหม่และด้วยความช่วยเหลือจากคอนเน็คชั่นของกีรติ ที่มีเพื่อนสาว ๆ ในวงการหนังสือไม่น้อย ทำให้ลันตาได้งานพิเศษเขียนคอลัมน์เกี่ยวกับเซเลบริตี้ ไฮโซจี้ดจ้าด จนทำให้ลันตาได้ประจันหน้ากับ มะนาวอีกครั้ง มะนาวเป็นอดีตแฟนของสิปาดันสมัยมหาวิทยาลัย มะนาวเกลียดลันตามาก เพราะตอนที่สิปาดันคบกับมะนาว ที่โดดเด้งเพราะเป็นดาวคณะ แต่ทุกครั้งที่ลันตามีเรื่อง สิปาดันจะทิ้งทุกอย่างแล้วแม้แต่มะนาวแล้วไปหาลันตาทำให้มะนาวยื่นคำขาดให้สิปาดันเลิกคบกับลันตา แต่สิปาดันทำไม่ได้ มะนาวจึงเป็นคนเลิกเพื่อหวังให้สิปาดันมาง้อและยอมทำตามที่มะนาวบอก แต่สิปาดันก็ไม่กลับมาทำให้มะนาวแค้นมาก และหมายหัวลันตาเป็นศัตรู มะนาวตั้งใจเล่นงานลันตาในงานหรูจนลันตาเกือบโดนโยนออกนอกงานแต่มีแพทกับกีรติที่ตามไปเป็นเพื่อนช่วยแก้ไขไว้ได้ทัน แพทแค้นมากแต่ลันตากลับสงสารมะนาว เพราะถ้ามีแฟนแล้วเห็นคนอื่นดีกว่าลันตาก็คงรับไม่ได้เหมือนกัน กีรติยิ่งชื่นชมลันตาที่นึกถึงคนอื่น กีรติอยากจะสร้างความประทับใจให้กับลันตาบ้างแต่กีรติไม่เคยได้มีโอกาสอยู่กับลันตาสองต่อสองเพราะมีแพทที่เป็นกองเชียร์ให้กับสิปาดันคอยทำตัวเป็นก้างขวางคอตลอดเวลา               ด้านตาหนูก็ต้องมีคนดูแลเวลาที่ลันตาไปทำงานทุกครั้งถ้าสิปาดันไม่อยู่ ลันตาก็จะฝากตาหนูไว้กับธัญญาเรศ แต่ทุกครั้งที่ธัญญาเรศมาดูแลตาหนู พอลจะได้ยินเสียงร้องไห้เสมอ และต่อมาตาหนูก็ไม่ยอมให้ธัญญาเรศอุ้ม ร้องงอแง สิปาดันเห็นรอยเขียวช้ำตามตัวตาหนูก็รู้สึกห่วงมากห้ามไม่ให้ธัญญาเรศดูแลตาหนูอีก ลันตาจะวานแพทแต่แพทเองก็ไม่ถนัด และคนที่อาสาคือพอล พอลไม่ได้มีแค่ปรารถนาดีแต่แอบเจ้าเล่ห์เพราะคิดจะใช้ตาหนูเรียกร้องขอความช่วยเหลือจากมิ้งค์ได้อย่างไม่ขัดเขิน มิ้งค์ทำเป็นฝืนมาเพราะคำขอร้องของลันตา แต่พอต้องได้อยู่ใกล้ชิดกับพอล พอลกลับทำตัวต่างออกไปจากคู่กัดคนเดิม เมื่อชายหนุ่มมาดกวนแต่ทุกการกระทำเทคแคร์มิ้งค์ตลอด จนมิ้งค์ใจสั่น ยิ่งได้เห็นมุมเท่ๆ ในความเป็นเชฟและความโรแมนติกของพอลกับเมนู Only You ที่เตรียมไว้ให้กับคนที่รักทำให้มิ้งค์รู้สึกหวั่นไหวและอยากรู้ว่าใครคือผู้หญิงที่โชคดีคนนั้น              ด้านกีรติก็รุกลันตาอย่างหนัก และคอยชื่นชมนั้นให้กับสิปาดันได้ฟังจนสิปาดันชักจะเหม็นหน้าเพื่อนซี้ยิ่งกีรติทึกทักเลื่อนขั้นตัวเองจากลุงเป็น “คุณพ่อ” โดยให้ลันตาเป็น”คุณแม่”แบบเนียน ๆ สร้างความไม่พอใจให้กับสิปาดันที่เกิดอาการหวงตาหนู ประกาศเลยว่าคนที่จะเป็นพ่อตาหนูได้มีเพียงแค่สิปาดันเท่านั้น ตั้งแต่นั้น สิปาดันทำทุกอย่างเพื่อเป็นการดูแลตาหนูแบบเต็มตัว และยังกันท่ากีรติไม่ให้โอกาสได้ใกล้ชิดกับลันตา จนลันตารู้สึกเหมือนว่าสิปาดันกำลังอินกับบทบาทคุณพ่อและสามีจนเกิดอาการ “หึง” ลันตา สิปาดันไม่ตอบรับแต่ไม่ปฏิเสธ และยังมุ่งมั่นในการดูแลครอบครัวจนกีรติต้องคาดคั้นและหาทางพิสูจน์จนคนปากแข็งอย่างสิปาดันต้องยอมรับว่าหลงรักลันตา กีรติว่าลันตาคือผู้หญิงคนแรกที่กีรติอยากจะจริงจังด้วย ดังนั้นความรักครั้งนี้ กีรติจะไม่ยอมถอย ขอให้ลันตาเป็นคนตัดสินใจว่าจะเลือกใคร เป็นการประกาศศึกลับ ๆของลูกผู้ชาย โดยที่ลันตาไม่ได้รับรู้ด้วยเลยลันตาได้พบกับอนุชิต โดยบังเอิญในวันที่อนุชิตเมามาก อนุชิตได้แต่พูดพร่ำเพ้อบอกว่าครอบครัวตนกับชีวิตคู่ลูกเมียมีปัญหามาก แต่สิปาดันมาพบ อนุชิตกำลังฟูมฟายอยู่กับลันดา สิปาดันจึงไล่อนุชิตกลับไป และไม่ต้องมายุ่งกับลันตาอีก แพทบอกลันตาว่า ลันตากำลังจะกลายเป็นนายสถานี มีรถด่วน 3 ขบวนเข้ามาให้เลือก ลันตาบอกเป็นไปไม่ได้ เพราะสิปาดัน คือ เพื่อนสนิทที่มึงมาพาโวยกันตลอด แพทจึงจัดคอร์ทใหญ่ เช็คความรู้สึกของสิปาดัน ด้วยการจัดบรรยากาศโรแมนติกชุดใหญ่ จนสิปาดันเกือบเพลี่ยงพล้ำ แต่ลันตาได้สติก่อน แต่อย่างน้อยทั้งคู่ก็ได้รู้ใจตัวเองว่า เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อต่อกันซะแล้ว ลันตาพยายามห้ามตัวเองเพราะกลัวว่าถ้าหลงรักสิปาดันแล้วสักวันความรู้สึกดีแบบเพื่อน จะต้องเสียไปอย่างแน่นอน             บรรยากาศในคอนโดหวานอบอวลไปด้วยความรักละมุน แล้วจู่ๆ ก็พังทลายเมื่อธัญญาเรศกับกีรติมาเยี่ยมลันตาที่คอยต้อนรับอย่างดี แค่เพียงช่วงเวลาที่ตาหนูห่างตาแป๊บเดียว เสียงกรีดร้องของธัญญาเรศก็ดังขึ้น ลันตาตกใจที่เห็นตาหนูตกจากโซฟา ลันตาตกใจแทบสติแตก แต่ได้กีรติที่ช่วยพาตาหนูส่งโรงพยาบาลจนตาหนูปลอดภัย สิปาดันที่กลับมาจากเที่ยวบินยุโรปพุ่งมาที่โรงพยาบาลทันที เมื่อได้ฟังเหตุการณ์คร่าวๆ จากธัญญาเรศ สิปาดันโมโหหึงเข้าใจว่าเพราะลันตามัวแต่ดูกีรติจนทำให้ตาหนูเจ็บตัว สิปาดันโกรธมากต่อว่าลันตาอย่างรุนแรง ลันตาเสียใจมากจนต้องหนีกลับบ้านเพราะไม่อยากเห็นสายตาเย็นชาของสิปาดัน ลันตากลับบ้านไปพึ่งพิงคุณย่ามาลัย คุณย่าเห็นลันตาเสียใจมากมายจนได้รู้ว่าทะเลาะกับสิปาดันก็โกรธนัก เพราะคุณย่าไม่ชอบหน้าสิปาดันมาตั้งแต่ไหนแต่ไร เพราะสิปาดันไม่เคยกลัวและยังต่อปากต่อคำกับคุณย่าประจำ ยิ่งมารู้กิตติศัพท์ความเจ้าชู้ของสิปาดัน ก็ยิ่งทำให้เหม็นหน้า แล้วยังมาทำให้หลานสาวสุดหวงของตนให้ต้องเสียใจ คุณย่าก็ยิ่งเกลียดขี้หน้าสิปาดันหนักขึ้นไปอีกกีรติไปเคลียร์กับสิปาดันให้เข้าใจว่าความจริงแล้วคนที่ทำให้ตาหนูตกโซฟาคือธัญญาเรศ ไม่ใช่ความผิดของลันตา สิปาดันไปเช็คกล้องวงจรปิด (ที่แอบติดไว้ตั้งแต่ตอนที่ตาหนูเริ่มมีรอยช้ำตามตัว) และเห็นว่าเป็นฝีมือธัญญาเรศจริง ๆ สิปาดันตามไปง้อลันตาที่บ้านแม้จะเจอคุณย่ามาลัยขับไล่ และไม่ยอมให้พบลันตา              ในที่สุดลันตาก็ทนไม่ไหวยอมกลับไปดูแลตาหนูตามที่สิปาดันอ้อนวอน แต่ปัญหาคือมันเป็นวันเกิดของลันตาแต่สิปาดันลืมวันเกิดของเธอด้วยการไปบินทั้งที่จะแลกกับเพื่อนนักบินคนอื่นก็ได้ ลันตางอนสุด ๆ เมื่อคุณย่ามาลัยนัดให้ไปทานข้าวในวันเกิด ลันตาไม่กล้าปฏิเสธต้องหอบหิ้วตาหนูโดยมีกีรติขอตามติดไปด้วยเพื่อแนะนำตัวกับคุณย่าอย่างเป็นทางการ ความน่ารักของตาหนูทำให้คุณย่ารู้สึกเอ็นดูแม้จะสงสัยว่าตาหนูมาจากไหน ลันตากับกีรติต้องแต่งเรื่องแถกแถไปเรื่อย คุณย่ามาลัยคอยจับตาดูท่าทีของกีรติและรู้สึกพอใจที่กีรติเอ่ยปากขอคบกับลันตาแบบแมนมาก จนคุณย่ามาลัยยอมอนุญาต ลันตารู้สึกอึ้งๆ เพราะไม่คิดว่ากีรติจะจู่โจมแบบนี้ และใจยังไปคิดถึงอีกคนที่ไม่ได้ใส่ใจตนเองอย่างสิปาดันแต่เมื่อลันตาพาตาหนูกลับมาที่คอนโดก็พบว่าสิปาดันนอนหลับไปท่ามกลางข้าวของที่รกอยู่เต็มห้อง แต่ลันตาต้องอึ้งเมื่อได้รู้ว่าสิปาดันตั้งใจจะเซอร์ไพร์สวันเกิดตัวเอง ลันตารู้สึกหวั่นไหวกับความอ่อนหวานและนัยน์ตายิ้มๆ ของสิปาดัน ทุกอย่างดูจะสวยงามราวกับกีตาร์สักตัวที่กำลังเล่นบทเพลงเพราะ ๆ แต่เหมือนกีต้าร์สายขาด เมื่อสิปาดันรู้ว่ากีรติไปพบกับคุณย่า ทำเหมือนกับพาแฟนไปพบผู้ใหญ่ สิปาดันแสดงอาการงอนอย่างหนักและประชดด้วยการยอมให้มะนาวเข้ามาวุ่นวายถึงในคอนโดจนลันตาโมโหทะเลาะกันใหญ่โตและจะย้ายกลับบ้าน แต่พอเห็นกล่องของขวัญที่ตกอยู่ในมุมที่ลันตาไม่เคยสนใจแล้วรู้ว่าสิปาดันเตรียมไว้ให้ทำให้ลันตาต้องเปลี่ยนใจเมื่อของขวัญในกล่องคือหุ่นยนต์ประกอบตัวที่สิปาดันรักมากที่สุด ข้อความในการ์ดใบน้อยที่บอกความในใจของสิปาดันว่า อยากจะฝากสิ่งที่รักที่สุดในชีวิตครึ่งหนึ่งให้กับคนที่อยากให้เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตและคนคนนั้นคือลันตา ลันตารู้สึกใจเต้นและยิ่งมั่นใจในความรู้สึกตัวเองว่าหัวใจเอนเอียงไปทางสิปาดันเข้าให้แล้ว               ลันตาเห็นสิปาดันหายเงียบก็ตามเข้าไปดูแลและเป็นครั้งแรกที่ลันตารู้สึกซาบซึ้งจนเผลอหอมแก้มของสิปาดันอย่างลืมตัว ลันตาเห็นตุ่มน้ำใส ๆ ขึ้นอยู่ที่อกสิปาดัน ลันตากดเบาๆ ตุ่มน้ำก็แตกออก ลันตารีบเช็ดให้ และได้รู้ว่าสิปาดันตัวร้อน ลันตาช่วยเอาผ้ามาเช็ดหน้าดูแลสิปาดันที่หลับนิ่งด้วยความรู้สึกอ่อนหวานสิปาดันไปหาหมอและพบว่าตัวเองเป็นอีสุกอีใส และในที่สุดลันตาก็ติดจนได้ สิปาดันจึงดูแลลันดาเหมือนที่ลันตาทำกับเขา และสิปาดันบอกว่า ดูแลเป็นการตอบแทนอย่างที่ลันตาทำให้ ทำให้ลันตาอายมากเพราะความจริงแล้วสิปาดันรู้สึกตัวตลอด แสดงว่ารู้เรื่องที่ลันตาลวนลามแก้มนุ่ม ๆ ของสิปาดันด้วย เมื่อป่วยทั้งคู่ และเพื่อน ๆ ก็ต่างติดงานลันตาตัดสินใจพาตาหนูไปฝากคุณย่ามาลัยให้ช่วยเลี้ยง แต่ทั้งลันตากับสิปาดันทนคิดถึงลูกไม่ไหว ขอให้มิ้งค์กับพอลช่วยไปพาตาหนูมาหา เมื่อมิ้งค์กับพอลไปถึงเจอกับธัญญาเรศที่มาหาคุณย่า พอลกับมิ้งค์แสดงอาการหวงตาหนูอย่างเห็นได้ชัดและพูดให้ธัญญาเรศรู้ตัวว่าทุกคนรู้ความใจร้ายของธัญญาเรศที่ทำกับตาหนูหมดแล้ว ทั้งคู่พาตาหนูไปที่คอนโดธัญญาเรศโกรธปั่นให้คุณย่าสงสัยและพาคุณย่าตามทั้งคู่ไปที่คอนโดนสิปาดัน ให้คุณย่าได้เห็นกับตาว่าลันตามาอยู่กับสิปาดัน แถมยังร้อยเรื่องว่าทั้งคู่ลักลอบได้เสียกันจนท้องและปิดบังไว้ คุณย่าแสดงตัวและเค้นเอาความจริงจากทั้งคู่ คุณย่าฟันธงทุกอย่างโดยไม่ฟังคำอธิบายเลย ลันตากับสิปาดันเลยจำต้องยอมรับผิด คุณย่าโกรธจัดตัดความสัมพันธ์ย่าหลานและห้ามลันตากลับไปที่บ้านเด็ดขาด แล้วถือโอกาสเอาตัวตาหนูกลับไปด้วย ทำให้ทั้งคู่ทุกข์ใจมาก            สิปาดันตัดสินใจปรึกษากับปราบดา ผู้เป็นพ่อ เจ้าของไร่ส้มขนาดใหญ่ในภาคเหนือ สิปาดันเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง ปราบดารู้ใจลูกชายดีว่ารักลันตา จึงแนะนำให้ใช้โอกาสนี้ทำทุกอย่างให้ถูกต้อง สิปาดันไม่มั่นใจว่าลันตาจะเห็นด้วย แต่ปราบดาก็เกลี้ยกล่อมจนลันตายอมตกลงทำตามแผน ทั้งสามคนเข้าพบคุณย่ามาลัย จากที่ไม่ชอบหน้าสิปาดันอยู่แล้วเจอฤทธิ์ฝีปากของปราบดาเข้าไป คุณย่าก็ยิ่งอาละวาดเป็นสองเท่า คุณย่าเล่นงานขับไล่อย่างหนักจนเกิดอุบัติเหตุสิปาดันโดนกระถางดอกไม้กระแทกเข้าที่หางคิ้ว แต่สิปาดันก็ไม่ยอมถอย สิปาดันคุกเข่าขอขมาและยอมรับผิดทุกอย่าง และที่สำคัญสิปาดันฉวยโอกาสนี้พูดความรู้สึกในใจว่ารักลันตา และอยากขอให้คุณย่าอนุญาตให้ทั้งคู่ได้แต่งงานกัน คุณย่าอึ้งที่เห็นสิปาดันในมุมมองที่แปลกใจ แต่สัมผัสได้ว่าทุกคำพูดของสิปาดันมีแต่ความจริงใจ คุณย่าตกลงยอมให้จัดงานแต่ง สิปาดันดีใจมาก ตัวลันตาพลอยรู้สึกว่าทุกอย่างมันเป็นเรื่องจริงและรู้ว่าที่ยอมให้ทุกอย่างเลยเถิดเพราะหัวใจที่มันไม่ซื่อต่อสิปาดัน แม้จะยังไม่เคยได้ยินคำว่ารักจากปากของสิปาดันเลยสักครั้งก็ตาม               มิ้งค์ได้รับโทรศัพท์เสียงเศร้าๆ จากพอลก็กลัวว่าพอลจะเสียใจและคิดสั้น มิ้งค์รีบมาหาพอล แต่กลับเจอพอลกำลังทำเค้กแต่งงานให้กับสิปาดัน มิ้งค์คิดไปเองว่าพอลคงเจ็บปวดมากพยายามจะปลอบพอลว่าเสียใจก็ระบายออกมาได้ แต่พอลไม่อยากระบาย แต่อยากจะสารภาพมากกว่า แล้วมิ้งค์ก็ต้องอึ้งเมื่อเจอการสารภาพรักจากเชฟสุดหล่อ พอลยอมสารภาพว่าชอบมิ้งค์ตั้งแต่สมัยเรียนแต่ทำตัวไม่ถูก พอได้เจอมิ้งค์อีกครั้งก็ยิ่งมั่นใจว่าใช่ และเมื่อเจอคนที่ใช่ เมนู Only You ก็มอบให้กับมิ้งค์คนเดียว กีรติเสียใจมากที่รู้ว่าลันตากับสิปาดันจะแต่งงานกัน แพทรู้สึกเห็นใจจนหลุดปากไปว่าทั้งคู่แต่งงานเพราะความจำเป็นทำให้กีรติยังมีหวัง กีรติบอกกับลันตาว่าถ้าลันตาไม่รักสิปาดัน กีรติก็พร้อมจะรอ ลันตาปฏิเสธแต่กีรติกลับรวบรัดตัดความถือเป็นคำสัญญาตามนั้น มะนาวได้รู้เรื่องทั้งหมดและไม่คิดจะยอมแพ้จะต้องแย่งสิปาดันคืนมาให้ได้วันแต่งงาน ทุกคนต่างมาร่วมแสดงความยินดี ทั้งเพื่อน ๆของเจ้าบ่าวเจ้าสาว รวมถึงกีรติและอนุชิต สิปาดันมอบแหวนแต่งงานของตนเองให้กับลันตาซึ่งเป็นแหวนแม่เหล็กสีดำสวมเข้าที่นิ้วนางซ้าย ส่วนตัวเองใส่เหล็กเข้าที่นิ้วนางขวาของตนเองสร้างความงุนงงให้กับผู้มางานหรือแม้แต่ตัวเจ้าสาวเอง งานแต่งครั้งนี้เป็นงานที่ดูจะอึมครึมเมื่ออนุชิตดูเศร้าจนทุกคนรู้สึกได้ ยิ่งเห็นตาหนู อนุชิตก็ยิ่งเศร้า แล้วทุกอย่างก็กระจ่างเมื่อลันตาเห็นอนุชิตกับธัญญาเรศทะเลาะกันตรงบันไดหนีไฟ ทำให้ลันตาได้รู้ว่าธัญญาเรศกับอนุชิตมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งต่อกัน และที่สะดุดใจลันตาที่สุดก็คือเรื่องลูกชายของอนุชิตที่หายไปนั้นน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับลันตาเอง                ลันตาเริ่มคิดหนักกับท่าทีธัญญาเรศที่มีกับตนเอง ยิ่งรู้จากคุณย่าว่าการที่คุณย่าตามไปที่คอนโดวันนั้นเป็นเพราะธัญญาเรศก็ยิ่งทำให้ลันตามั่นใจว่าธัญญาเรศตั้งใจทำหลายสิ่งเพื่อทำลายลันตา ลันตาตัดสินใจไปหาอนุชิต ลันตาเจอกับอรขจีที่ตอนนี้ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า สาเหตุจากที่ลูกของอรขจีถูกขโมยไป ลันตาปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมดและเพื่อความมั่นใจ ลันตาสอบถามว่าลูกของอนุชิตที่ลักษณะอะไรที่เป็นที่สังเกตได้ และปานที่ก้นด้านซ้ายที่เหมือนกับที่ตาหนูมีทำให้ลันตาได้คำตอบอย่างแท้จริงลันตาเสียใจมากตามไปคาดคั้นธัญญาเรศ แต่ธัญญาเรศไม่ยอมรับ แพท กีรติร่วมมือกันจนหาหลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดที่เห็นธัญญาเรศเอากล่องใส่เด็กมาวางไว้ที่ท้ายรถของลันตาทำให้ธัญญาเรศต้องยอมจำนนในที่สุด เพื่อนรักทั้งสามต้องเคลียร์เรื่องที่คาใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น ธัญญาเรศระเบิดความรู้สึกตัวเองออกมาอย่างขมขื่น ความจริงที่ทำให้ลันตากับแพทต้องอึ้งเมื่อธัญญาเรศกับอนุชิตมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันมาก่อนที่อนุชิตจะมาพบกับลันตา ธัญญาเรศหวังไว้มากว่าเมื่ออนุชิตเลิกกับอรขจีแล้วจะแต่งงานกับตนเอง แต่หลังอนุชิตหย่ากลับบอกเลิกธัญญาเรศเพื่อจะคบกับลันตาแทน พอธัญญาเรศไม่ยอมและขู่จะบอกความจริงทั้งหมดให้ลันตารู้ อนุชิตก็ลงไม้ลงมือกับเธอเลยทำให้ธัญญาเรศบันดาลโทสะ ธัญญาเรศจึงวางแผนให้อรขจีตามมาราวีลันตา และขโมยตาหนูเพื่อมาวางท้ายรถลันตา ตั้งใจให้ลันตาเป็นฆาตกรเพื่อจะไม่มีวันได้สมหวังกับอนุชิต                 ลันตาโกรธมากที่ธัญญาเรศเลือดเย็นโดยไม่มีความเมตตากับทารกตัวน้อยอย่างตาหนู ลันตาขาดสติทำให้ต่างลงมือใส่กันจนแพทกับกีรติต้องจับทั้งสองแยกจากกันโดยด่วน สิปาดันกลับมารู้เรื่องทั้งหมดรีบตามไปปลอบโยนลันตา ลันตาไม่เสียดายเพื่อนทรยศแต่ไม่อาจหักใจคืนตาหนูให้กับอนุชิตได้ทันที ลันตาขังตัวเองอยู่ที่บ้านกับตาหนู ไม่ให้ใครแตะต้องแม้แต่คุณย่ามาลัย สิปาดันหากลอุบายที่จะทำให้ลันตาได้คลายเครียด ยอมฟังเหตุผลและคืนลูกให้กับอนุชิต คุณย่ากับสิปาดันหลอกล่อให้ลันตาไปต่างจังหวัดด้วยอุบายว่าเพื่อไปฮันนีมูนพร้อมหน้าพ่อแม่ลูก สิปาดันเกลี้ยกล่อมลันตา ลันตารู้ดีว่าที่ทำอยู่ไม่ถูกต้องแต่ทำใจไม่ได้จริง ๆ สิปาดันพยายามปลอบโยน คืนนั้นลันตากับสิปาดันได้เปิดใจซึ่งกันและกัน อาจเป็นเพราะเบียร์หรือบรรยากาศที่เป็นใจทำให้ทั้งคู่ได้มองกันด้วยสายตาของคนที่รักกันเป็นครั้งแรก หลังค่ำคืนแสนหวาน เช้าวันต่อมา สิปาดันถูกมะนาวเรียกตัวไปเรื่องงานด่วน แต่ลันตาคิดว่าสิปาดันยังลังเลอยู่ และกลัวว่าตัวเองจะเป็นเพียงแค่ความผิดพลาดของสิปาดัน ไม่อยากให้สิปาดันต้องมารับผิดชอบ จึงบอกเลิกกับสิปาดัน สิปาดันช๊อคที่โดนบอกเลิก และขอเหตุผล แต่ลันตาไม่สามารถบอกได้ แต่ บอกว่าอยากให้เวลากับตัวเอง ได้เรียนรู้ใจตัวเองจริง ๆ ก่อน และทั้งตัวสิปาดันด้วย ทั้งคู่แยกจากกันด้วยความเสียใจ ลันตสยอมรับความจริงว่า ตาหนูความจะต้องอยู่กับครอบครัวที่แท้จริง จึงพาตาหนูมาคืนให้อนุชิตและอรขจี อนุชิตและอรขจีดีใจมากขอบคุณลันตาและขอให้ลันตาเป็นแม่ทูลหัวให้ตาหนู หรือจะรับไปดูแลบ้างก็ได้ และตัวอนุชิตเองก็กลับตัวเป็นพ่อและเป็นสามีที่ดี เหมือนที่สิปาดันทำให้ตาหนู               ความทุกข์ระทมของสิปาดันกับลันตาอยู่ในสายตาของกรีติ แพท พอล และมิ้งค์ อรขจี มะนาวมาหาลันตาและบอกลันตาว่าสิปาดันบอกเลิกกับเธอ และบอกว่าไม่อาจรักใครได้เท่าลันตาอีกแล้ว ซึ่งมะนาวยอมรับความพ่ายแพ้ครั้งนี้ และขอให้ลันตาเข้าใจสิปาดันด้วย ย่ามาลัยได้เห็นความทุกข์ใจของลันตา จึงบอกว่าดีแล้วที่ได้เรียนรู้จากความเจ็บปวดครั้งนี้ เพราะทั้งสองจะได้รู้จักรู้ใจตัวเองอย่างแท้จริง ว่าความรู้สึกที่เปลี่ยนแปลงไป เป็นเพราะทั้งสองคนได้รู้จักรู้ใจตัวเองอย่างแท้จริง ในที่สุดกรีติก็รู้วาสิปาดันลาพักกลับไปอยู่ที่บ้านปราบดาที่เชียงใหม่ ลันตาบินตามไป การมาที่บ้านปราบดาอีกครั้งทำให้ลันตาได้ย้อนรำลึกไปถึงเมื่อลันตากับสิปาดันเป็นนักศึกษา ทำกิจกรรมร่วมกัน และเข้าค่ายเก็บตัวด้วยกัน ตอนนั้นลันตาหลงป่า สิปาดันก็ช่วยตามหา ทั้งคู่ดูแลกันและกันจนรอดมาได้ และสัญญากันว่าจะเป็นเพื่อนกันไปตลอดชีวิต               ปราบดาให้ลันตาไปรอที่บ้านน้อยท้ายไร่ ที่นั่นลันตาได้เห็นความรู้สึกของสิปาดันผ่านรูปภาพ ข้าวของที่เป็นความทรงจำระหว่างทั้งสองคน ลันตามั่นใจแล้วว่าที่ผ่านมา สิปาดันรักเธอมาเพียงใด สิปาดันกลับมา ตกใจที่เห็นลันตารออยู่ ลันตาของยกเลิกสัญญาความเป็นเพื่อน และสวมแหวนแม่เหล็กคืนให้สิปาดัน และขอเลื่อนให้สิปาดันเป็นคนรักอย่างเต็มตัว และต่อไปนี้เธอและสิปาดันจะดูแลกันและกันตลอดไป ความสัมพันธ์อันดีระหว่างเพื่อนสนิท คิดไม่ซื่อ อีกสองคู่ ทั้งแพท กรีติ พอล มิ้งค์ ก็ถูกเลื่อนมาเป็นคู่รักและช่วยดูแลกันและกัน รวมถึงเจ้าหนูตัวน้อย ผู้เป็นกามเทพให้กับทุกคน รายชื่อนักแสดง วรินทร ปัญหกาญจน์ รับบทเป็น สิปาดัน ภีรนีย์ คงไทย รับบทเป็น ลันตา ธนกฤต พานิชวิทย์ รับบทเป็น พอล จรินทร์พร จุนเกียรติ รับบทเป็น มิ้งค์ โกสินทร์ ราชกรม รับบทเป็น กีรติ เจสสิกา ภาสะพันธุ์ รับบทเป็น แพท อริสรา ทองบริสุทธิ์ รับบทเป็น ธัญญาเรศ อดิศร อรรถกฤษณ์ รับบทเป็น อนุชิต นาตาลี เดวิส รับบทเป็น อรขจี เจสัน ยัง รับบทเป็น พิธาน ภัทรินทร์ เจียรสุข รับบทเป็น มะนาว ดวงตา ตุงคะมณี รับบทเป็น ย่ามาลัย

-อ่านต่อ- http://gossipstar.mthai.com/tv-content/45734
แหล่งที่มา http://gossipstar.mthai.com/tv-content/45734

มาลีเริงระบำ

มาลีเริงระบำ ละครมาลีเริงระบำ
แหล่งที่มาhttp://gossipstar.mthai.com/tv-content/47705

"มาลีเริงระบำ" "มาลีเริงระบำ" บทประพันธ์ : นันทวรรณ รุ่งวงศ์พาณิชย์ บทโทรทัศน์ : นันทวรรณ รุ่งวงศ์พาณิชย์ กำกับการแสดง : สำรวย รักชาติ           เสียงเพลงดังมาจากห้องน้ำหลังบ้านไม้ในหมู่บ้านชนบท ห้องน้ำคือเวที ฝักบัวคือไมโครโฟน กระจกอยู่ตรงหน้า “หนูมาลี”(มีชื่อจริงพ่อตั้งให้ว่า ด.ญ.มาลีเริงร่า อากาศดี)เด็กสาวหน้าตาผิวพรรณสวยราวกับภาพวาด อยู่ในห้องน้ำวันละหลายชั่วโมง เพียงเพื่อร้องเพลงและเต้นรำเลียนแบบศิลปินดังที่อยู่ในทีวี           “หนูมาลี” เป็นสาวเหนือจากหมู่บ้านเล็กๆ หนูมาลีเติบโตมาด้วยน้ำมือปู่คนเก่งชอบช่วยเหลือแต่เป็นอัลไซเมอร์ชื่อ “ปู่เชื้อ” และย่าหูตึงใจดีแต่มักทำผิดเพราะฟังไม่ได้ยินชื่อ “ ย่าหงส์” มาลีเติบโตอย่างไม่มีพ่อแม่จึงใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่กับทีวีและวิทยุแทบทั้งวันหนูมาลีมีความฝันว่าตนจะได้มีโอกาสเข้าร่วมประกวดร้องเพลงแล้วชนะเลิศ โด่งดังเป็นดาวในเมืองหลวงกับรายการทีวีสักรายการหนึ่งนั่นคือฝันที่หนึ่ง ฝันที่สองของหนูมาลีคือการได้พบพ่อบังเกิดเกล้า “เรืองยศ” หรือ พ่อเรือง ที่เข้าไปทำงานในกรุงเทพ ทุกๆเดือนหนูมาลีจะไปที่ไปรษณีย์เพื่อรับเงินที่พ่อเรืองส่งมาให้ ภาพจำสุดท้ายของหนูมาลี คือเมื่อตอนสามขวบ พ่อเรืองในชุดทหารเกณฑ์ เอาข้าวของมากมายมาเยี่ยมปู่ย่า และเข้ามากอดหนูมาลีอย่างรักใคร่ หลังจากนั้นพ่อก็ได้แต่ส่งเงินและจดหมายมา ทุกๆวันสงกรานต์ ปู่ ย่า และหนูมาลี จะไปรอที่ปากทางหมู่บ้านแต่พ่อเรืองก็ไม่มา ปู่บอกว่า พ่อเป็นทหารที่เก่งมาก ป่านนี้คงเป็นเจ้าคนนายคน จึงส่งเงินและจดหมายที่มีแต่ความห่วงใยกลับมาบ้านได้สม่ำเสมอ ปู่และย่าภูมิใจในตัวพ่อเรืองมาก           สำหรับหนูมาลี พ่อเรืองคือดวงใจ คือจุดหมาย คือทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิต โดยไม่จำเป็นต้องมีแม่ ! ปู่เคยเล่าให้ฟังว่า พ่อเรืองกับแม่เป็นเพื่อนนักเรียนกัน ทั้งสองแอบได้เสียกันตอนงานลอยกระทง แม่ของหนูมาลีเกิดท้อง ด้วยความที่แม่ของหนูมาลีใฝ่แสงสีในเมืองหลวง หลังจากคลอดลูกก็ทิ้งลูกไว้แล้วหนีเข้ากรุงเทพ พ่อเรืองคนนี้เองที่ไปตระเวนหาลูก ถึงกับต้องขโมยเด็กขึ้นรถสองแถวหนีจากสังคมสงเคราะห์ เรืองยศพาหนูมาลีกลับบ้านมาให้พ่อกับแม่เลี้ยง แล้วดิ้นรนไปหางานทำในเมืองหลวงเพื่อส่งเสียให้หนูมาลีได้เรียนสูงๆ ให้พ่อกับแม่ได้มีเงินรักษาตัวยามเจ็บไข้ พ่อเรืองพูดคุยกับหนูมาลีทางจดหมายปีละครั้ง แต่หนูมาลีส่งจดหมายถึงพ่อเสมอทุกเดือน สิ่งเดียวที่หนูมาลีไม่เข้าใจคือ ทำยังไงพ่อเรืองก็ไม่ยอมให้หนูมาลีออกจากหมู่บ้านไปหาพ่อที่กรุงเทพ ทุกครั้งที่หนูมาลีส่งจดหมายก็ได้แต่ส่งเข้าตู้ไปรษณีย์เลขที่ 14 ไปรษณีย์รัชดา โดยไม่บ่งบอกที่อยู่ใดๆ           เมื่อหนูมาลีเรียนจบม.6 หนูมาลีตัดสินใจแน่วแน่ จะเข้ากรุงเทพไปหาพ่อ หนูมาลีตั้งใจจะไปประกวดร้องเพลงในรายการโทรทัศน์ที่มีชื่อเสียงดังที่สุดในประเทศด้านการหาซุปเปอร์สตาร์ สุดท้ายจึงตัดสินใจเดินทางมาที่กรุงเทพฯ หนูมาลีจะไปดักรอพ่อที่หน้าไปรษณีย์ ยังไงเสียพ่อต้องมาไขตู้เอาจดหมายที่ตนส่งมาทุกเดือน ผ่านการเดินทางที่น่าเวียนหัว เข้ากรุงเทพครั้งแรก เมืองฟ้าอมรตรงหน้าเนืองแน่น ซับซ้อนจนยากที่จะเข้าใจ ทันทีที่ลงจากบขส. หนูมาลีกอดกระเป๋าแน่น พอดีพบเข้ากับอธิ นายตำรวจที่กำลังดักจับ คนส่งยาเสพติด อธิเข้าใจผิด คิดว่ามาลีเป็นคนร้าย จึงไล่จับ มาลีวิ่งหนี จนทองทา เพื่อนของอธิต้องช่วยจับตัวไว้ มาลีต่อสู้ ใช้สนับมือฟันไปที่หน้าอกของทองทาจนเป็นรอยแผลเป็น สุดท้ายทองทา อธิ และมาลีจึงไปสถานีตำรวจด้วยกัน จึงรู้ว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิด อธิต้องไปจับคนร้ายต่อ ทิ้งให้ทองทาอยู่กับมาลี มาลีไปเฝ้ารอพ่อที่ไปรษณีย์ แต่ด้วยความเป็นห่วง เพราะมืดค่ำ ทำให้ทองทาต้องพามาลีไปพักที่บ้านชั่วคราว แล้วจึงช่วยหนูมาลี ตามหาพ่อต่อไป           ท่าทางที่เรียบร้อยสะอาดอ้านของทองทา หยิบจับทำอะไรก็ดูดีงดงามไปหมด ทำให้หนูมาลีอดคิดไม่ได้ว่าทั้งสองเป็นพวกรักร่วมเพศ หนูมาลียังพบใบสมัครร้องเพลง ในกระเป๋าของทองทา หนูมาลีรู้สึกสนิทสนมกับทองทาทันที หนูมาลีถามว่าทองทาจะสมัครการแสดงอะไร ทองทาบอกว่าเขาเป็นแดนเซอร์ เขารักการเต้นเป็นชีวิตจิตใจ หนูมาลีปักใจเชื่อว่า ทองทาเป็นเกย์ เป็นนักล่าฝันจากบ้านนอกเหมือนกันกับตน เพราะทองทาพูดภาษาไทยบางคำแปลกๆ และมีทีท่าเป๋อๆเปิ่นๆเหมือนกันกับตนในเมืองหลวงแห่งนี้           หนูมาลีหารู้ไม่ ทองทาไม่ได้เป็นสาวประเภทสอง เขาเป็นชายหนุ่มปรกติ ที่ชอบดูแลตัวเอง รักศิลปะ เขารักการเต้นทุกชนิดเป็นชีวิตจิตใจ ในวัยเด็กพ่อกับแม่ของเขาแยกทางกัน แม่ที่เป็นนักบัลเล่ต์หนีไปอยู่ต่างประเทศ เขาจึงทิ้งประเทศไทยไปอยู่กับแม่ และเรียนเต้นจนจบปริญญาเอก ทองทามีอาชีพเป็นผู้ออกแบบท่าเต้นและการแสดงโชว์ มีผลงานมากมายในต่างประเทศ ก่อนจะเดินทางมาที่ประเทศไทยเมื่อไม่กี่วันนี้ ทองทาจึงเป็นผู้ชายทั้งแท่งที่มาจากประเทศนอกไม่ใช่เกย์บ้านนอกอย่างที่หนูมาลีเข้าใจทองทารู้สึกประทับใจในความใสซื่อ จริงใจและใบหน้าที่สวยงามของหนูมาลี เขารู้สึกขำกับอาการตีความเอาเองของหนูมาลีหลายๆอย่าง ก็เลยเออออห่อหมกไปกับหนูมาลี อยู่ช่วยเหลือหนูมาลีไปเรื่อยๆ อย่างน้อยก็ได้นอนเคียงข้างสาวสวยช่างฝันที่พูดคุยสนุกทุกคืนเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะสนิทสนมกับหนูมาลีอย่างรวดเร็ว ทองทาก้มมองที่หน้าอกด้านซ้ายที่มีหัวใจอยู่ตรงนั้น รอยแผลจากสนับมือทำท่าจะกลายเป็นแผลเป็น เหมือนความประทับใจในตัวสาวน้อยที่ดูจะเพิ่มมากขึ้น ไม่มีทีท่าจะลดน้อยลง             มาลีไปรอพ่อที่ไปรษณีย์ทุกวัน จนได้พบกับชงโค ที่มาเอาจดหมายไป เธอสะกดรอยตามไป และได้พบกับการะเกด การะเกดให้มาลี ตามไปดูเจ้าของจดหมายที่กำลังจะขึ้นโชว์บนเวที ดวงตาสองข้างของหนูมาลีจับจ้องอยู่บนเวทีการแสดง ไฟแสงสีปรากฎ หนูมาลีใจเต้น พ่อเรืองที่ตนรอคอยกำลังจะปรากฎตัวขึ้นตรงหน้า และแล้วชายหนุ่มผิวขาวใบหน้าสวยเฉี่ยวก็ปรากฎขึ้น รอยยิ้มฉาบเครื่องสำอางค์ บนร่างสูงสง่า ปรากฏตัวขึ้นราวกับราชินีแห่งคีตศิลป์ เสียงอันทรงพลังราวกับนักร้องมืออาชีพแทรกมากับดนตรีกระหึ่มบนเวที !          หนูมาลีก้มลงมองรูปถ่ายสีของพ่อเรืองในมือที่สั่นเทาของตน ชายหัวเกรียนในชุดทหารเกณฑ์สีเขียวอุ้มกอดหนูมาลีในวัยสามขวบอย่างรักใคร่ นี่คือวันสุดท้ายที่ได้พบหน้าพ่อเรืองเมื่อ15ปีก่อน พ่อเรืองของหนูมาลีไม่ใช่ทหาร ! แต่เป็นกระเทยแต่งหญิง เขาไม่ได้เป็นนายพันหรือนายพลอย่างที่ปู่บอก ไม่ใช่แม้แต่เฮียเจ้าของร้านคาราโอเกะ แต่คือ“โรส”เจ้าของร้านคาราโอเกะที่สวยและร้องเพลงเพราะมาก นี่เองคือคำตอบ ทำไมพ่อจึงไม่มาหาปู่ย่าและแม้แต่ลูกสาวของตัวเอง เพราะพ่อมีชีวิตอีกด้านที่น่าอับอายและไม่อยากให้ใครรู้ โดยเฉพาะคนในครอบครัว !ไม่เพียงแต่หนูมาลีที่ตกใจ โรสเองก็จำหนูมาลีได้ทันที ทั้งสองไม่ใช่พ่อลูกที่โผเข้าหากันกอดกัน ทั้งสองนิ่งอึ้งมองหน้ากัน ไม่มีคำพูดใดๆ ! ทั้งสองไม่สามารถบอกได้ว่าตัวเองควรจะรู้สึกอย่างไรในเวลาเช่นนี้ ความผิดหวังในตัวผู้เป็นพ่อ ทำให้มาลีไม่สามารถเรียกเรืองยศ หรือโรสว่าพ่อได้ สุดท้าย โรสจึงให้มาลีเรียกตนเองว่าพี่โรส           หนูมาลีต้องอยู่กรุงเทพฯ ต่อไป ทั้งเรื่องเรียนต่อ และเรื่องการเข้าประกวดร้องเพลง เธอกลายเป็นเด็กเสิร์ฟที่ร้านของโรส โดยที่ไม่มีใครรู้ว่า ทั้งสองคนเป็นพ่อลูกกัน มาลีแสดงทีท่าไม่ชอบบอย คนรักของโรสตั้งแต่แรก แต่บอยก็ไม่ถือสาอะไร มาลีพบว่า เมื่อถอดเครื่องประกอบทั้งหมดออกแล้ว โรสก็เป็นเพียงผู้ชายรูปร่างหน้าตาดี มีท่าทางกระตุ้งกระติ้งมากกว่าปรกติ โรสเป็นคนปากจัด ขี้โวย เอาจริงเอาจัง ดุดัน ตรงไปตรงมา นับแต่วันนั้น หนูมาลีทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟในร้านของพี่โรส วันๆหนูมาลีพูดกับพี่โรสไม่กี่คำ พี่โรสเองไม่ได้พูดถึงปู่ย่า ไม่ได้พูดถึงข้อความในจดหมายที่เขียนหากันมาตลอด15ปี พี่โรสและหนูมาลียังคงไว้ซึ่งการเป็นนายจ้างและลูกจ้างเหมือนคนอื่นแต่มีบางสิ่งที่ไม่เหมือน สิ่งนั้นคือสายตาอันห่วงใย ที่โรสจะทอดมองมาที่หนูมาลีครั้งละนานๆ ความผิดปรกติอีกอย่างหนึ่งก็คือ พี่โรสนั้นจะปากไวปากจัด บ่นด่าจิกกัดทุกคนได้ตลอดวลา24 ชั่วโมง แต่สำหรับเด็กเสริฟที่ชื่อหนูมาลีแล้ว โรสไม่เคยดุด่าสักคำ           มาลีสมัครเข้าประกวดร้องเพลงพร้อมกับ ชงโค การะเกด ซึ่งเจ้าของสถานีโทรทัศน์คือเมืองแมน พ่อของทองทา ซึ่งเมืองแมนเป็นคนเจ้าชู้ เห็นแก่ผลประโยชน์และธุรกิจเป็นใหญ่ และภรรยาคนล่าสุดของเขาก็คือ โยทะกา แม่ของมาลีนั่นเอง ที่สถานี มาลีได้พบกับทองทาอีกครั้ง และเธอก็รู้ในที่สุด ว่าทองทาเป็นลูกของเมืองแมน คู่ต่อสู้คนสำคัญของมาลีก็คือ เบลล่า ลูกสาวต่างมารดาอีกคนของเมืองแมน เบลล่าสนิทสนมกับทองทา เธอเข้าประกวดเวทีนี้เช่นเดียวกัน ถึงแม้โยทะกาจะทักท้วงในตอนแรก แต่เพื่อกระแสข่าวและเรทติ้งทางสถานี เมืองแมนจึงให้เบลล่าเข้าประกวดในที่สุด โดยมีบุณฑริก ผู้เป็นยาย เป็นแรงสนับสนุนสำคัญของเบลล่า           เมืองแมนเป็นคนเจ้าชู้ เขาได้แม่ของทองทา “ช้องนาง” เป็นภรรยาคนแรก ช้องนางที่กำลังมีอนาคตในวงการบัลเล่ต์ ยอมทิ้งฝันนักบัลเลต์ระดับโลกเพราะท้องกับเมืองแมน แต่แล้วช้องนางก็ต้องเสียใจเมื่อพบว่าเมืองแมนไม่หยุดอยู่ที่ตนเอง เมืองแมนแอบไปมีเมียน้อย เป็นสาวไฮโซจากตระกูลเก่าแก่ชื่อ “บัวบุษบง” ช้องนางจึงหย่าและหนีไปต่างประเทศ แต่บัวบุษบงก็อยู่กับเมืองแมนได้ไม่นาน เมืองแมนแอบไปคบกับนางงามระดับประเทศคนดังชื่อ “โยทะกา”เมื่อบัวบุษบงรู้เข้า บัวบุษบงก็กินยาตายทิ้งลูกสาวชื่อ “บุษบาบัณ” หรือ “เบลล่า”เอาไว้ให้แม่ของตนเลี้ยง เมืองแมนแต่งงานกับโยทะกา จากสาวเหนือบ้านนอกมาเป็นนางงาม จากนางงามมาเป็นภรรยามหาเศรษฐี จากภรรยามหาเศรษฐี โยทะกากลายเป็นผู้บริหารรายการทีวีหญิงที่มีความสามารถ มีชื่อเสียง มีหน้ามีตาอยู่ในสังคม เป็นที่รู้จักของคนทั่วๆไป            การแข่งขันเต็มไปด้วยความเข้มข้น ทั้งมาลี การะเกด ชงโค เบลล่า ทิมมี่ โกมินทร์ ภูมิ ซึ่งทางเบลล่านั้นมีครูสอนทั้งร้อง ทั้งเต้นให้อย่างครบครัน ส่วนมาลีนั้นไม่มีใคร จึงขอร้องให้ทองทามาเป็นครูสอนเต้นให้ ทองทาจึงใกล้ชิดกับมาลีมากขึ้น ส่วนอธิก็เริ่มสนิทสนมกับการะเกด และชอบการะเกดมาขึ้นทุกวัน โรสไม่ค่อยเห็นด้วยนักที่มาลีเข้าประกวด เพราะอยากให้มาลีเรียนหนังสือมากกว่า แต่เมื่อได้พบกับทองทา เห็นว่าเขาเป็นคนหนุ่มที่เก่ง และนิสัยดี จึงฝากให้ทองทา ดูแลมาลีอีกแรง           มาลีเริ่มมีชื่อเสียงขึ้นเรื่อย ๆ ที่เวทีนี้เอง เธอได้พบกับนักร้องชายในฝัน ซีโร่ อดีตผู้ชนะเลิศจากการประกวดปีที่แล้ว ซีโร่รู้ว่ามาลีหลงรักตนเอง จึงพยายามหว่านเสน่ห์ พูดจาหวานใส่มาลีตลอดเพื่อสร้างกระแส ทองทารู้ดีว่าซีโร่ไม่มีความจริงใจต่อมาลี แต่ไม่อยากพูดให้มาลีเสียใจ ส่วนเบลล่าเองก็ไม่พอใจมากที่ทองทาสนิทสนมกับมาลี จึงหาทางกลั่นแกล้งมาลีตลอดเวลา            กิจการที่ร้านของโรสไม่ค่อยดีนัก แล้วชงโค ก็ตกรอบจากการประกวด เจ๊ซูซี่ เพื่อนของโรส ที่ชอบหาเด็กสาว ๆ ไปให้กับ เสี่ยวานิช จึงติดต่อชงโคไปถ่ายภาพโป๊ และสุดท้ายก็ไปมีความสัมพันธ์กับวานิชในที่สุด กลายเป็นผู้หญิงกลางคืนเต็มตัว ซูซี่ยังไม่หยุดแค่นั้น ยังหลอกให้การะเกดไปหาวานิช จนถูกข่มขืน ทั้งทองทา และอธิตามไปช่วยไม่ทัน การะเกดเหมือนตกนรกเพราะทำใจไม่ได้ สุดท้ายเธอก็ลาออกจากการแข่งขันในที่สุด เหลือมาลีเพียงลำพัง กิจการที้ร้านของโรสก็ต้องถูกปิดลงชั่วคราว เพราะเจ้าหนี้ตามมาทวงหนี้ อาละวาดจนแขกในร้านหนีกันไปหมด บอย ก็พยายามช่วยโรสทุกวิถีทาง แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มาก สุดท้าย มาลีเริ่มยอมรับในตัวของบอยมากขึ้นโรส แคที่ บอย มาลี จึงกลับไปต่างจังหวัด เพื่อเยี่ยม ปู่เชื้อ กับย่าหงส์ ความลับเรื่องที่โรสเป็นกะเทย ถูกเปิดเผยในที่สุด แต่มาลีก็ยืนยันว่า ไม่ว่าโรสจะเป็นยังไง ก็ยังเป็นพ่อของเธอในที่สุด          ทองทา รักและเป็นห่วงมาลีเพิ่มขึ้นทุกวัน ตัดสินใจ ร้องเพลงสารภาพรักมาลีบนเวทีเปิดตัวศิลปินหน้าใหม่ของบริษัท เมืองแมนดีใจมากที่จะได้ทองทา มาเป็นศิลปิน เรียกเงินและเรทติ้งอีกคน ส่วนบรมและแซนดี้ ก็หมายมั่นปั้นมือ จะปั้นทองทาให้โด่งดังให้ได้ มาลีไม่ยอมพบหน้าทองทา จนทองทาต้องตามไปหาที่ต่างจังหวัด โรสเชียร์ทองทาจนออกนอกหน้า แต่ยังไม่ทันที่ทั้งคู่จะได้พูดคุยกัน ซีโร่ก็ตามมาก่อกวน พูดจาไม่ดีใส่โรสไปหลายคำ แต่สุดท้ายเมื่อรู้ว่าโรสเป็นพ่อของมาลี ก็ถึงกับอึ้งไป          การะเกดกลับไปเยี่ยมแม่ที่ต่างจังหวัด เศร้าใจกับชีวิต อธิคอยตามไปปลอบใจไม่ห่าง แต่ยังไง การะเกดก็ไม่ยอมกลับไปร้องเพลงอีก และด้วยความสงสารที่โรสไม่มีทางออก แคที่ จึงยอมออกทุนให้ก้อนใหญ่ เพื่อให้โรสกลับไปเปิดร้านอีกครั้ง ทุกคนจึงกลับไปที่กรุงเทพ ป้าบุญมา สมศรี ก็กลับมาทำครัวเช่นเดิม แต่คราวนี้โรส เปลี่ยนคอนเซปต์ร้าน ให้แขกที่มา ได้ขึ้นโชว์ กลายเป็นซุปตาร์กันถ้วนหน้า ทำให้ร้านเริ่มโด่งดัง ลูกค้าจองคิวขึ้นโชว์กันแบบข้ามเดือน มาลีกลับเข้าไปร้องเพลงประกวดอีกครั้งด้วยเพลงที่บอกถึงความคิดถึงที่มีต่อทองทา ซึ่งทองทาเอง ก็เข้าห้องอัดเสียงร้องเพลงด้วยความคิดถึงมาลีเช่นเดียวกัน สุดท้ายคืนนั้นเอง ทองทากับมาลีก็ปรับความเข้าใจกันในที่สุด ทั้งคู่บอกรักกัน และยืนยัน และก้าวไปสู่ฝัน ด้วยการร้องเพลงของทั้งคู่          ในขณะที่เส้นทางการร้องเพลงของมาลีกำลังไปได้ดี โรสกลับมีอาการป่วยมากขึ้น ด้วยการเป็นมะเร็งที่ลำไส้ สุดท้ายเขาตัดสินใจ บอกกับโยทะกาว่า มาลีคือลูกสาวของตนเอง ที่เกิดกับโยทะกา โยทะกาดีใจมาก แต่เมื่อมาลีรู้ความจริง กลับรับไม่ได้ที่โยทะกาทอดทิ้งตนไป ขอมีโรสเป็นพ่อเพียงคนเดียว ซ้ำร้ายเมืองแมนยังคงไม่เลิกนิสัยเจ้าชู้ เอาแต่ได้ เขาไปมีความสัมพันธ์กับเลขาจ๋า เลขาของโยทะกา จนโยทะการู้เรื่องในที่สุด โยทะกาเครียดจัด กินยานอนหลับไปเกินขนาดจนต้องเข้าโรงพยาบาล ทองทาต้องไปดูแล แต่หนูมาลียังไม่ยอมไปเยี่ยม เพราะยังทำใจไม่ได้          เบลล่า เอาจุดอ่อนที่มาลีเรียกโรสว่าพี่ ปลุกกระแสนักข่าวให้เกลียดชังมาลี ที่ไม่ยอมเรียกโรสว่าพ่อ ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่มาลีขึ้นเวทีร้องเพลงที่ร้านของโรส และเรียกโรสว่าพ่ออย่างเต็มปาก เต็มคำ โรสดีใจมาก ข่าวของมาลีและโรสแพร่กระจายไป อีกทั้งยังเรื่องที่โรสป่วยเป็นมะเร็ง ยิ่งทำให้ประชาชนเห็นใจเธอมากขึ้น จนคะแนนโหวตขึ้นแซงหน้าเบลล่าไปอีก การะเกดกลับมาร้องเพลงอีกครั้งที่ร้านของโรส แต่อดีต ยังคงทำให้เธอหวาดกลัว ซึ่งอธิก็หาทางจับวานิช เอาผิดให้ได้ แต่เขาก็รอดไปทุกครั้ง สุดท้าย การะเกดจึงยอมเป็นพยานคดีถูกวานิชข่มขืน จนวานิชถูกจับในที่สุด ทั้งการะเกดและอธิ รักและเข้าใจกัน ส่วนชงคง ก็กลับมาอยู่ที่ร้าน เลิกอาชีพค้าบริการ โดยได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากโรส และทุกคน           กระแสข่าวของซีโร่เริ่มแผ่วเบาไป เขาจึงคิดหาวิธีสร้างข่าวกับหนูมาลี ด้วยการเข้าไปในห้องแต่งตัว เพื่อถ่ายรูปกับมาลี แสดงว่าสนิทสนมกัน ซีโร่คิดจะลวนลามมาลี โชคดีที่โรสเข้ามาช่วยทัน มาลีแถลงข่าวต่อหน้าสื่อมวลชนว่า ซีโร่คิดร้ายต่อตนเอง ทำให้ซีโร่หมดอนาคตไปในทันที เมืองแมนมีโอกาสได้เจอมาลีเข้าอย่างจัง จึงเกิดหลงไหล อยากได้มาลีมาเป็นของตนเอง และไม่เหลียวแลเลขาจ๋าอีก โดยที่เมืองแมนไม่รู้ว่า มาลีคบอยู่กับทองทา เมื่อเบลล่ารู้เรื่องจึงแกล้งส่งข้อความทางโทรศัพท์ไปหาเมืองแมน อ้างว่าเป็นหนูมาลี ซึ่งมีใจให้กับเมืองแมน ทำให้เมืองแมนเข้าใจผิดคิดว่าหนูมาลีมีใจให้ อาการป่วยของโรสทรุดหนัก จนทุกคนรู้กันหมด ทั้งโยทะกา มาลี โรส ชงโค การะเกด อธิ สมศรี บุญมา ที่เสียใจที่สุดก็คือบอย เขาร้องไห้ กอดโรส อ้อนวอนให้โรสไปรักษาตัว เพื่ออยู่เป็นกำลังใจให้กับทุกคน สุดท้ายโยทะกาจึงยื่นมือเข้ามาช่วย พาโรสไปรักษาตัว           การประกวดร้องเพลงรอบสุดท้ายมาถึง คะแนนของเบล สู้มาลีไม่ได้ เธอจึงคิดหาทางกำจัดมาลี ด้วยการให้คนร้ายจับตัวมาลี ไปที่คอนโดเมืองแมน เมืองแมนปลุกปล้ำมาลี ดีที่โยทะกามาช่วยไว้ทัน เธอใช้ปืนยิงที่ขาของเมืองแมน เพื่อช่วยมาลี ลูกสาวคนเดียวของเธอ ทองทาตามมาอีกคน ต่อสู้กับคนร้าย ที่ลักพาตัวมาลีมา แล้วมอบตัวให้กับอธิ ทองทาพามาลีขึ้นเวทีร้องเพลงทันเวลา แต่เบลล่าก็ใช้กลโกงจนชนะการประกวด มาลีภูมิใจมากที่ได้ร้องเพลง มันคือนาทีที่ยิ่งใหญ่ ที่เธอได้มอบให้กับผู้ชม พร้อมทั้งครอบครัวที่สมบูรณ์อย่างโรส และโยทะกา           โรสยิ้มปลื้มที่เห็นหนูมาลีได้ทำให้ฝันเป็นจริง อาการของโรสทรุดหนัก แต่เขากลับดีใจที่ร้านอาหารของเขาขายดิบขายดี จนสามารถปลดหนี้สินได้ โรสทำพินัยกรรมมอบส่วนแบ่งให้กับทุกคน และให้มาลีดูแลกิจการต่อ ฝากฝังให้โยทะกาดูแลมาลีแทนตนต่อไป อธิขอการะเกดแต่งงาน ส่วนทองทาก็ขอมาลีแต่งงาน เพียงรอให้มาลีเรียนจบก่อนเท่านั้น ทั้งคู่ก็จะแต่งงานกัน โรสหมดลมในอ้อมกอดของหนูมาลี ทุกคนเศร้าใจ เมืองแมนไม่สามารถกลับมาเดินได้เหมือนเดิม ซ้ำยังถูกปลดจากการเป็นผู้บริหารสถานี โยทะกาสู้คดี เรื่องที่ยิงเมืองแมน ว่าเป็นการปกป้องลูกสาวตนเอง ทองทาได้ขึ้นเป็นผู้บริหารสถานีแทน โดยมีโยทะกา บรม แซนดี้ เป็นผู้ช่วย ส่วนซีโร่ก็สำนึกผิด กลับมาขอโทษมาลี และทองทาก็ให้โอกาสซีโร่ได้กลับมาทำงานเรื่องการร้องเพลงอีกครั้ง บุณฑริก ยังคงเพ้อเจ้อเรื่องทรัพย์สมบัติ ส่วนเบล ก็ถูกดำเนิคดีเรื่องจ้างวาน คนมาทำร้ายมาลี เบลเริ่มมีอาการเพ้อ เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย ด้วยความที่ทะเยอทะยาน ชอบแก่งแย่งชิงดี จนไม่สามารถควบคุมสติตนเองได้           มาลีกลายเป็นนักร้องที่โด่งดัง มีงานไม่ได้หยุด ถึงแม้จะไม่ใช่ผู้ที่ชนะเลิศในการประกวด อีกทั้งความรักที่มีกับทองทาก็ผลิบานขึ้นทุกวัน ถึงวันนี้มาลีจะไม่มีโรสเคียงข้าง แต่เธอก็มีโยทะกาคอยดูแล พร้อมทั้งเสียงเพลงที่อยู่กับเธอไปตลอดกาล   รายชื่อนักแสดง แพทริเซีย กู๊ด รับบท มาลี สน ยุกต์ ส่งไพศาล รับบท ทองทา วรวุฒิ นิยมทรัพย์ รับบท โรส ณัฏฐพัชร วิพัธครตระกูล รับบท การะเกด เปรมณัช สุวรรณานนท์ รับบท ร.ต.ต.อธิ ชนิดาภา พงศ์ศิลป์พิพัฒน์ รับบท เบลล่า เมธัส ตรีรัตนวารีสิน รับบท ซีโร่ ธัญญาเรศ เองตระกูล รับบท โยทะกา เล็ก ไอศูรย์ รับบท เมืองแมน เธียยเกศ ไอสุรางฆ์ รับบท ชงโค วรายุฑ มิลินทจินดา รับบท แคที่ ชลนที ณรงค์ชัย รับบท บอย นรินทร ณ บางช้าง รับบท แซนดี้ กลศ อัทธเสรี รับบท บรม

-อ่านต่อ- http://gossipstar.mthai.com/tv-content/47705
แหล่งที่มา http://gossipstar.mthai.com/tv-content/47705

ดาวเคืิองเดือน

ดาวเคียงเดือน ละครดาวเคียงเดือน
แหล่งที่มา http://gossipstar.mthai.com/tv-content/46831

ดาวเคียงเดือน ดาวเคียงเดือน บทประพันธ์ : รอมแพง บทโทรทัศน์ : นันทวรรณ รุ่งวงศ์พาณิชย์ - SANCTUARY กำกับการแสดง : ชนินทร ประเสริฐประศาสน์ ออกอากาศ : ศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ เวลา 20.15-22.45 น. ทางไทยทีวีสีช่อง3              “เมื่อดาริกา...หลานสาวสัปเหร่อตบะกล้า ผู้ยึดมั่นในคานและมองเห็นเงินเป็นสรณะ กลับต้องมาสะดุดหัวใจตัวเองจนหัวทิ่มหัวตำเมื่อได้พบกับพระจันทร์ผู้เลิศเลอ ปรากฏการณ์ดาวเกี้ยวเดือนจึงกลับมาย้อนรอยคนรุ่นพ่อแม่อีกครั้งหนึ่ง” จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ ดาริกา ถูกไหว้วานจาก พุดตาน เพื่อนสนิทที่จะต้องไปดูงานที่ต่างประเทศให้เฝ้าคอนโด ดาริกาตอบตกลงโดยไม่ต้องคิดให้เสียเวลา เพราะนี่จะเป็นโอกาสเดียวในชีวิตที่เธอจะได้อยู่ห้องราคาหลายล้านบาท แทนห้องเช่ารายเดือนราคาหลักพันอันเป็นที่พักอาศัยของเธอมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย แล้วยิ่งคอนโดแห่งนี้อยู่ใกล้บริษัท วี.ออร์แกไนซ์ ที่ทำงานของเธอ ดาริกาก็จะสามารถประหยัดงบการเดินทางไปได้อีกมาก อีกอย่างรถไฟฟ้าทำให้เธอมาช็อปที่ห้างแกรนด์ได้สะดวกขึ้น เพราะที่นี่มักมีของเซลล์ให้เธอช็อปได้บ่อยๆ ดาริกาไม่เคยซื้อของเต็มราคา เธอจะซื้อของที่ลดราคากระหน่ำเท่านั้น นิสัยประหยัดทำให้ดาริกามีเงินเก็บก้อนใหญ่ เพื่อนำเงินไปซื้อที่ดินหลังป่าช้าที่แม่และตาเช่าวัดอยู่นั่นเอง งานนี้มีแต่สบายตัว...สบายเงินในกระเป๋า...สบายใจโดยไม่ต้องพึ่งผู้ชาย              สาเหตุที่ดาริกาไม่เคยสนใจผู้ชายเพราะเธอกลัวการมีชีวิตคู่ อันเป็นผลมาจากเรื่องราวความรักของ กุสุมา แม่ของดาริกาที่ไม่ค่อยจะดีนัก เพราะเมื่อเกือบยี่สิบปีก่อน กุสุมาลูกสาวของ ทศ สัปเหร่อและมรรคทายกประจำวัด พบรักกับนายตำรวจชั้นประทวนจึงหนีตามกันไป ทิ้งความอับอายไว้ให้ผู้เป็นบิดา แต่แล้วความเจ้าชู้ของสามีก็ทำให้กุสุมาทนไม่ได้ ขอหย่ากับเขาแล้วอุ้มลูกน้อยในท้องกลับมาอยู่กับบิดาเหมือนเดิม เด็กหญิงดาริกาเติบโตมาในครอบครัวที่มีฐานะยากจน บ้านของเธอทำจากฝาโลงศพ ทำให้เธอไม่ค่อยมีเพื่อนมาเล่นด้วยเท่าไหร่เพราะกลัวผี แต่เด็กหญิงกลับภาคภูมิใจว่าบ้านของเธอเก๋ไก๋ไม่เหมือนใคร และฐานะที่อัตคัดทำให้ดาริการู้จักคุณค่าของเงินมาตั้งแต่เล็กจนโต              ดาริกาอาศัยอยู่ในคอนโดหรูอย่างสุขใจได้ไม่กี่ชั่วโมง เธอก็พบหนุ่มข้างห้องส่งเสียงอึกทึกครึกโครม จนเธอต้องเข้ามาต่อว่า เธอไม่รู้เลยว่าหนุ่มผู้ดีนั่นคือ หม่อมหลวงจันทรกานต์ ทัศนัย และ วิวิทธิ์ เลขาหนุ่มคู่ใจ เมื่อคุณจันทร์รู้ว่าดาริกาเป็นลูกน้องของ วรางค์ เจ้าของวี.ออร์กาไนซ์ และกำลังทำโปรเจคท์ฉลอง 50 ปีห้างแกรนด์อยู่ คุณจันทร์รับสมอ้างว่าตนเป็นเกย์คู่วิวิทธิ์ และเป็นพนักงานของแกรนด์ ที่ไม่แสดงตัวตนจริงเพื่อสำรวจการทำงานของบริษัทวรางค์ว่าจะมีประสิทธิภาพแค่ไหน คุณจันทร์ทำการสำรวจทุกหน่วยงานในห้างแกรนด์ เพราะเพิ่งได้รับมอบหมายจาก คุณชายจันทร ผู้พ่อและคุณแม่ ดาราราย อดีตสาวสังคมผู้โด่งดัง ให้บริหารงานในห้างแกรนด์ช่วงทดสอบเป็นเวลา 2 ปี หลังจากที่เขาเพิ่งเรียนจบปริญญาโทจากต่างประเทศมาหมาดๆ งานนี้ถ้าเขาทำสำเร็จจะได้ดำรงตำแหน่งผู้จัดการใหญ่ของห้าง แต่ถ้าล้มเหลวก็ต้องลาออกกลับไปเรียนต่อ วิวิทธิ์เตือนเขาว่าก้างขวางคอชิ้นใหญ่ที่เขาต้องเจอคือ คุณเพชร อดีตเอ็มดีที่ไม่ศรัทธาการทำงานของจันทร์ในทุกๆเรื่อง โดยเฉพาะการปรับกลยุทธ์ของห้างให้รับใช้คนชั้นกลางมากขึ้น คุณเพชรคัดค้านเต็มที่ โดยมี ยุพา ผู้ช่วยสาวทึนทึกเป็นคู่คิดในการโค่นคุณจันทร์              งานใหญ่ชิ้นแรกของจันทร์คืองานฉลองครบรอบ 50 ปีแกรนด์ จันทร์พบว่าดาริกาก่นด่าหม่อมหลวงจันทรกานต์ให้เขาฟังอยู่ตลอดเวลาถึงความเจ้าระเบียบ จุกจิก และเต็มไปด้วยความสมบูรณ์แบบจนเกินเหตุ ลำบากถึงคนทำงานระดับล่างอย่างพวกเธอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ทีมงานต้องมารับรองความเรื่องมากของ ซุปตาร์แม็กซ์ ดารานักร้องคนดังเบอร์หนึ่ง ที่จันทร์ต้องการให้เป็นนายแบบ “เจ้าชายสายฟ้า” ในงาน จันทร์เข้าใจดาริกามากขึ้นเมื่อเขาต้องเข้าไปช่วยดาริกาให้พ้นจากการถูกแม็กซ์ข่มขืน ผลจากการชกต่อย แม็กซ์ปฏิเสธเลิกเล่นก่อนหน้าโชว์ไม่กี่ชั่วโมง ทีมงานวรางค์และดาริกาต้องปวดประสาทในการหานายแบบอีกครั้ง            จันทรกานต์รู้สึกต้องรับผิดชอบในเหตุการณ์ที่ดาริกาถูกทำร้าย และเมื่อเธอเกิดความคิด ขอร้องให้จันทรกานต์เป็นนายแบบเสียเอง จันทร์เกิดฮึดสู้ อยากท้าทายสิ่งใหม่ๆจึงยอมรับบทเจ้าชายสายฟ้า ที่เสี่ยงต่อภาพลักษณ์ผู้บริหารเหลือเกิน เพราะเขาต้องเปลือยท่อนบน ทาตัวสีเงิน ขึ้นสลิงเหาะมากลางงาน แต่จันทรกานต์ก็ไม่ทำให้ใครผิดหวัง โชว์จบลงอย่างสวยงาม ทุกคนชื่นชมในตัวจันทร์ โดยเฉพาะคุณชายพ่อ และ หม่อมหลวงจักรพัฒน์ ทัศนัย ลูกพี่ลูกน้อง เจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายของแกรนด์ มีแต่ดารารายเท่านั้นที่ไม่พอใจอย่างมาก และตำหนิดาริกาอย่างรุนแรง ดาริกาช็อคเพราะเธอเพิ่งรู้เดี๋ยวนี้ว่า พนักงานฝ่ายขายรูปหล่อคนนี้คือหม่อมหลวงจันทรกานต์ ดาริกาเสียความรู้สึกมาก ประกาศกับจันทร์ว่าเธอจะไม่มาซื้อของเซลล์ที่ห้างแกรนด์อีก และขออย่าให้เขามายุ่งเกี่ยวกับชีวิตเธออีกต่อไป            แต่แล้วเหมือนแกล้ง ในคืนนั้นเธอยิ่งต้องยุ่งและใกล้ชิดจันทรกานต์มากขึ้นไปอีก เพราะเขามาขอหลบภัยที่ห้องของเธอ เขาถูกวางยาปลุกเซ็กส์โดย พิชญา ภรรยาของจักรพัฒน์ที่หลงรักจันทร์มาตั้งแต่สมัยเรียน และคืนนี้เธอกะจะนอกใจสามีมานอนกับเขา หวังว่าเขาจะรับรักเธอในที่สุด ดาริกาเผชิญหน้าชาย่าหรือพิชญา และไล่เธอออกไป ต้องพาจันทรกานต์ลงนอนแช่ในอ่างน้ำในห้องนอนของเธอจนถึงเช้า แถมยังช่วยขับพิษยาให้จันทร์ด้วยอาหารและยาอีกด้วย จันทร์ขอบคุณดาริกาในความมีน้ำใจ และขอร้องให้เธอยังไปช็อปที่ห้างแกรนด์ต่อ โดยเสนอโปรโมชั่นหลากหลายสุดคุ้มจนดาริกาปฏิเสธไม่ลง            จันทรกานต์มาขอความช่วยเหลือดาริกาอีกครั้ง ให้ช่วยพาไปที่บ้านมูลนิธิเด็กดีที่อยู่นอกเมืองไม่ไกลจากบ้านตาทศมากนัก ดาริกายินดีเพราะเธอไปทำบุญช่วยเหลือเด็กกำพร้าที่นี่เป็นประจำ เธอไม่รู้ว่าจันทรกานต์มีวัตถุประสงค์แอบแฝง เขาต้องการมาดูตัว อิงฟ้า ลูกสาว คุณหญิงอรชร สหายสนิทของดาราราย ที่สองแม่พยายามจะจับคู่กัน อิงฟ้าเป็นครูและกรรมการของบ้านเด็กดี เธอต้อนรับจันทร์อย่างเย็นชา เพราะเข้าใจว่าจันทร์ไม่ได้มาช่วยเหลือเด็กอย่างที่อ้าง แต่มาเพื่อดูตัวเธอ จันทร์ขอโทษ แต่ก็ยืนยันว่าเขาต้องการช่วยเหลือเด็กจริงๆ และพร้อมจะสนับสนุนโครงการมูลนิธิที่จะจัดขึ้นที่ห้างแกรนด์งานนี้วิวิทธิ์ได้พบอิงฟ้าในสภาพเสื้อผ้าลำลองกำลังทำสวนอยู่ ทำให้เขาเข้าใจผิดว่าอิงฟ้าเป็นเด็กสก๊อยที่มูลนิธิดูแลอยู่ แถมยังสั่งเด็กให้ขโมยเงินของเขามาเสียด้วย อิงฟ้าพยายามจะอธิบายว่าเด็กชายข้าวตอกในความดูแลของเธอเป็นคนขโมยเองตามนิสัยเด็กจรจัดที่กำลังปรับพฤติกรรมกันอยู่ เธอกำลังจะเอาไปคืนเจ้าของ แต่วิวิทธิ์ไม่สนใจฟัง             พิชญายังไม่ล้มเลิกเรื่องความรักกับจันทร์ เสนอตัวเข้ามาทำงานในแกรนด์ จักรพัฒน์ใจสลายเมื่อเห็นกับตาว่าเธอยั่วยวนจันทร์ในที่ลับตาคน พิชญายืนยันว่าเธอไม่เคยรักจักรพัฒน์ และจะหย่าจากเขาในไม่ช้า จันทรกานต์ไม่เล่นด้วย พิชญาโยนความผิดทั้งหมดไปที่ดาริกา เธอเข้าใจว่าจันทร์เช่าห้องติดกันให้ดาริกาอยู่ในฐานะเมียเก็บ เรื่องราวนี้ไปถึงหูดาราราย จนดารารายต้องเรียกจันทร์มาสอบสวน แม้จะรู้ความจริงว่าดาริกาอยู่ห้องติดกับจันทร์อย่างบังเอิญ แต่ดาริกาที่หวงลูกชายอย่างที่สุดต้องไปสืบความจริงถึงห้องดาริกา ดาริกาหมั่นไส้ที่ดารารายพูดไม่ให้เกียรติเธอ จึงตัดสินใจยืนยันว่าเธอกับจันทร์ไม่ใช่แฟนกันแน่นอน เพราะจันทร์อยู่ในเพศสภาพเดียวกันกับเธอ ดารารายกลับตีความไปว่าดาริกาเป็น “ทอม” ลูกชายเธอเป็นแมนร้อยเปอร์เซนต์ ดาริกาอยากกรี๊ด            อิงฟ้าเข้ามาทำงานที่แกลเลอรี่ที่แกรนด์ ขายรูปภาพของเธอหารายได้เข้ามูลนิธิ วิวิทธิ์หน้าแตกยับเยินที่เข้าใจว่าอิงฟ้าเป็นสก๊อยมาขายตัวในห้าง และด่าอรชรว่าเป็นแม่เล้า ต้องขอโทษกันยกใหญ่ เมื่อวิวิทธิ์ใกล้ชิดอิงฟ้า ฟังอุดมการณ์ของเธอที่ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์โดยเฉพาะเด็กๆไร้โอกาส วิวิทธิ์เริ่มหลงใหลในตัวอิงฟ้า แต่ก็ยังเจียมตัวที่ต้อยต่ำกว่า แถมอิงฟ้ายังเป็นคู่หมายของเจ้านายตัวเองเสียอีก ความรักเริ่มก่อตัวขึ้นกับอีกคู่คือจันทรกานต์และดาริกา ดาริกาเข้ามาช่วยแก้สถานการณ์ให้ทั้งจันทร์และอิงฟ้าอยู่เนืองๆ เมื่อพิชญาที่เมาไร้สติเข้ามาระรานอิงฟ้า ทึกทักว่าจันทร์เป็นคนรักของเธอ ดาริกาเลยแสดงตัวว่าเป็นเมียเก็บหวงผัวจันทรกานต์อย่างที่พิชญาเข้าใจ และเรียกจักรพัฒน์มาพาพิชญากลับไป และอีกครั้งหนึ่งเมื่อแก๊งค์พิชญา เพชร และยุพา ร่วมกันทำลายโครงการบ้านเด็กดี วางแผนขโมยเพชรจาก คุณหญิงน้อย เพื่อนอรชร ไปไว้ในตัวเด็กหญิงดอกไม้ เด็กกำพร้าของมูลนิธิ ดาริการ่วมมือกับจันทร์และวิวิทธิ์ช่วยทั้งอิงฟ้า เด็กๆ และ ครูตุ้ย ครูใหญ่ของบ้านพ้นข้อกล่าวหาไปได้            จันทร์ปลื้มดาริกามาก เขารู้สึกอบอุ่นสบายใจทุกครั้งที่อยู่ใกล้เธอ จันทร์ปรึกษาคุณชายพ่อเรื่องอยากจ้างเธอมาเป็นเลขาส่วนตัวแทนวิวิทธิ์ เพราะนอกจากทำงานเก่งแล้ว ความรอบรู้ของเธอที่มีกับห้าง แกรนด์น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับเขาในการปรับปรุงให้ห้างรับใช้ชนชั้นกลางมากขึ้น ปัญหาที่ยากที่สุดคือจะดึงเธอมาทำงานได้อย่างไร เพราะดาริกาซื่อสัตย์กับเจ้านายอย่างวรางค์เหนียวแน่น กับอีกเรื่องคือทำให้ดารารายยอมรับในตัวดาริกาได้อย่างไร คุณชายจันทรให้จันทร์หาทางออกด้วยตัวเองและเฝ้ามองอยู่ห่างๆ วิวิทธิ์มีความหวังในตัวอิงฟ้ามากขึ้นเมื่อรู้ว่าจันทร์ไม่ได้รักอิงฟ้า และอิงฟ้าเองก็เริ่มมีใจให้เขา วิวิทธิ์ดูแลอิงฟ้าและเด็กๆในปกครองทั้งสามของเธอ ข้าวตอก ดอกไม้ ข้าวตู ตลอดเวลาที่เธอมาทำงานที่ แกรนด์ จนเด็กๆเรียกวิวิทธิ์ว่าพ่อ อิงฟ้าตอบแทนวิวิทธิ์ด้วยการวาดรูปบึงบัวหลังบ้านวิวิทธิ์ให้เป็นของขวัญ           จันทร์ใช้วิธีการแยบยลในการจ้างดาริกามาเป็นเลขา ทั้งขอร้องดาริกาตรงๆ ทั้งเข้าหาวรางค์ ยื่นข้อเสนอว่าจ้างบริษัทวรางค์ให้ทำอีเวนท์ให้แกรนด์ตลอดสองปีที่เขาจ้างดาริกามาเป็นเลขา ด้วยยอดตัวเลขผลประกอบการเป็นร้อยล้านต่อปี เข้าหาแม้แต่คุณตาทศและแม่กุสุมาถึงบ้านดาริกา ดาริกาปฏิเสธตลอด แต่แล้วก็ใจอ่อนเมื่อจันทร์ปกป้องเธอจากกลุ่มนักเลงวินมอเตอร์ไซค์ ไอ้สุดหล่อ และสมุนที่จะข่มขืนเธอ แถมจันทร์ยังช่วยจัดหาตำรวจและรปภ.มาเฝ้าตาและแม่ที่บ้านอีกด้วย ดาริกายอมเป็นเลขาโดยขอจันทร์เรื่องหนึ่ง จันทร์ต้องปกป้องคุ้มครองเธอจากมหาภัยทั้งหลายที่เธอต้องเผชิญที่แกรนด์ จันทรกานต์สัญญาอย่างอบอุ่นจนดาริกาชักหวิวๆ นึกในใจว่าถ้าไม่ใช่เกย์ เธอคงหลงรักนายหม่อมหลวงคนนี้เข้าแล้วล่ะ             และมหาภัยก็เกิดจนได้ เมื่อดารารายไม่ยอมรับในตัวดาริกาในฐานะเลขา สอบสวนดาริกาเรื่องปล่อยข่าวลือว่าจันทร์และวิวิทธิ์เป็นคู่เกย์กัน และไล่ดาริกาออก งานนี้ดาริกาโต้ตอบดารารายอย่างเผ็ดร้อน เมื่อขู่กลับว่าทางแกรนด์ต้องจ่ายเงินชดเชยให้เธอครบสองปีตามสัญญาที่ตกลงกับจันทร์ห้ามบิดพลิ้ว ยิ่งทำให้ดารารายเกลียดชังดาริกามากขึ้น มหาภัยอีกเรื่องคืออิงฟ้าแตกหักวิวิทธิ์ เพราะดาริกายืนยันว่าวิวิทธิ์คือคู่เกย์คนรักของจันทร์ วิวิทธิ์เสียใจเมามาย คลั่งจนบุกบ้านอิงฟ้าเข้าไปปล้ำอิงฟ้าถึงในห้องนอน วิวิทธิ์อธิบายเรื่องที่ดาริกาเข้าใจผิดให้อิงฟ้าเข้าใจ เรื่องทำท่าจะลงเอยด้วยดีถ้าคุณหญิงอรชรไม่เข้ามาเห็นทั้งสองตระกองกอดกันเสียก่อน ทางจันทร์เองก็บุกห้องดาริกาเพื่ออธิบายว่าเขาคือชายแท้ ดาริกาไม่เชื่อ ท้าทายด้วยการให้จันทร์จูบเธอ จันทร์ไม่รอช้า พิสูจน์ด้วยการจูบทันที ดาริกาเป็นลม เชื่อแล้วว่าเขาคือชายแท้ เธอยิ่งโกรธร้องไห้โฮ ไล่เขาออกจากห้อง ก่อนจะสารภาพกับตัวเองว่าหลงรักเขามาตั้งแต่คิดว่าเขาเป็นเกย์แล้วล่ะ             อรชรและดารารายลงความเห็นว่าต้องจัดการเรื่องจันทร์และอิงฟ้าขั้นเด็ดขาด นั่นคือมัดมือชกทั้งคู่ให้หมั้นหมายกันท่ามกลางแขกเหรื่อในงานวันเกิดของอิงฟ้านั่นเอง งานนี้ทำให้วิวิทธิ์และดาริกาใจเสียไปไม่น้อย ดาริกาต้องปิดบังไม่ให้จันทร์รู้ว่าวิวิทธิ์และอิงฟ้ารักกัน ต้องแอบช่วยให้วิวิทธิ์ได้เจออิงฟ้า จนทำให้จันทร์สงสัยและเข้าใจผิดว่าดาริกาแอบคบกับวิวิทธิ์ ยิ่งได้รับการยืนยันจากสาวไฮโซตัวแสบอย่าง แพ็ท ศศิอาภา ที่แอบถ่ายคลิปดาริกาและวิวิทธิ์อยู่กันสองต่อสองมาได้ ยิ่งทำให้จันทร์สั่นคลอนเลขาชายหญิงของเขาทั้งคู่ อีกคนที่ใจสลายจากงานหมั้นจันทร์อิงฟ้าก็คือพิชญา เธอหมดทางสู้ แถมจักรพัฒน์ยังหย่าจากเธอและไล่เธอออกจากบ้านทั้งๆที่เขายังอาลัยอาวรณ์เธอเหลือเกิน             ความเข้าใจผิดบานปลายไปอีก เมื่อจันทร์ได้รับเชิญไปบ้านภูตะวันของแพ็ทเพื่อดูการถ่ายทำโฆษณากาแฟภูตะวันสินค้าของแพ็ทเอง งานนี้แพ็ทกะจะเสี้ยมให้คู่รักหลายคู่ต้องแตกหัก และเธอจะรวบผู้ชายรูปงามไว้กินเองตามประสาหญิงโรคจิต ทั้งคู่จันทร์-ดาริกา วิวิทธิ์-อิงฟ้า และอีกคู่คือ วรางค์-อาร์ตี้ อาร์ตี้ เป็นครีเอทีฟหนุ่มหล่อล่ำของวรางค์ ที่แพ็ทขอร้องแกมบังคับให้เล่นเป็นนายแบบเสียเอง อาร์ตี้รัก วรางค์ แต่วรางค์ลังเลเพราะ ป๊อบ น้องชายเธอไม่อยากให้เธอล้มเหลวกับการแต่งงานเหมือนครั้งพ่อแม่ของตน การถ่ายทำคว่ำไม่เป็นท่า อาร์ตี้เมาและคลั่ง ประกาศเลิกวรางค์และขอลาออกจากวี.ออร์กาไนซ์ แถมยังไล่ชกต่อยป๊อบ ส่วนจันทรกานต์ก็เมาเช่นกัน ชกต่อยวิวิทธิ์ด้วยความหึง จนถูกลูกหลงหมดสติไป งานนี้ ป๊อบมีคนปลอบโยนคือ น้องนาง เด็กสาวติ๊งต๊องไฮโซเมืองนอกญาติของแพ็ท ที่ต้องคอยรับใช้แพ็ทอยู่ตลอด             จันทร์ปรับความเข้าใจกับดาริกา โดยมีวิวิทธิ์ อิงฟ้าสารภาพความจริงว่าทั้งสองรักกัน ไม่ใช่อย่างที่จันทร์เข้าใจผิด จันทร์โล่งอก และเกิดความคิดที่จะยุติการหมั้นและแต่งงานของตนกับอิงฟ้าขั้นเด็ดขาด นั่นคือสร้างเรื่องว่าอสุจิของตนอ่อนแอไม่สามารถมีทายาทได้ งานนี้ทุกคนต้องร่วมมือกัน แม้แต่คุณชายพ่อต้องร่วมเล่นละครหลอกดารารายและคุณหญิงอรชรด้วย ดารารายและอรชรลังเลที่รู้ว่าตนจะไม่ได้อุ้มหลานแท้ๆ แต่แล้วก็ตัดสินใจเด็ดขาดให้จันทร์และอิงฟ้าเลิกรากันทันที เมื่ออิงฟ้าเสนอให้รับข้าวตอก ดอกไม้ ข้าวตูมาเป็นบุตรบุญธรรมแทน จันทร์ ดาริกากลับมาหวานชื่นกันยิ่งกว่าเดิม เช่นเดียวกับวิวิทธิ์และอิงฟ้า แต่ดารารายยังขัดขวางความรักของลูกชายกับเลขารากหญ้าอยู่ เมื่อผิดหวังจากอิงฟ้าเธอหันมาหาแพ็ทแทน พยายามจับคู่แพ็ทกับจันทร์ แม้คุณชายจันทรจะเตือนว่าแพ็ทมีข่าวลือไม่สู้ดีเรื่องเซ็กส์วิตถารและชอบแย่งสามีชาวบ้าน แต่ดารารายไม่เชื่อ นับวันจันทรกานต์ก็ทำตัวติดดินบ้านๆลงทุกที ดารารายสรุปว่าดาริกาทำให้ลูกชายเธอเปลี่ยนไป จากการเสี้ยมของแพ็ท ทำให้ดารารายรู้ว่า นายดำรง พ่อของดาริกาแอบมาหาจันทร์และรีดเงินจากจันทร์ครั้งละหลายแสนบาท เธอแอบถ่ายคลิปให้ดาริกาดู ดาริกาตกใจและเสียใจที่พ่อทำได้ถึงขนาดนั้น ดารารายบังคับให้ดาริกาไปจากชีวิตของจันทร์เสีย โดยต้องทำตามแผนของเธอทุกขั้นตอน ดาริกาไม่มีทางเลือก              วรางค์กลับมาคืนดีอาร์ตี้ ป๊อบเข้าใจความรักของทั้งคู่แล้ว ไม่คิดขัดขวางอีก เขาได้เรียนรู้ความรักจากน้องนางนั่นเอง คนเราที่แตกต่างกันมากๆไม่ใช่ว่าจะครองรักกันไม่ได้ อาร์ตี้ไม่ได้บอกวรางค์ว่าคืนหนึ่งที่เขาเมา แพ็ทพาเขาไปนอนที่บ้านของเธอและพยายามจะซื้อตัวเขาจากวรางค์ แต่อาร์ตี้ปฏิเสธโดยสิ้นเชิง งานนี้น้องนางถูกบังคับให้ถ่ายคลิปไว้ด้วย ดำรงสร้างปัญหาไม่เฉพาะลูกสาวตัวเอง แต่ยังร่วมมือกับแก๊งค์สุดหล่อ และ นายศักดิ์สิทธิ์ นักเลงใหญ่ ลักพาตัวข้าวตอก ดอกไม้ ข้าวตู หวังเรียกค่าไถ่จากคุณหญิงอรชร งานนี้วิวิทธิ์ต้องเข้ามาดูแลทั้งอิงฟ้าและคุณหญิงแม่ที่ล้มป่วยกันทั้งคู่ดาริกาต้องเล่นบทบาทหญิงเริงชู้ ทำให้จันทร์เข้าใจว่าเธอแอบเฟลิตกับจักรพัฒน์ และไม่ได้รักจันทร์แม้แต่นิด เพื่อให้จันทร์เกลียดเธอและไล่เธอออกไปจากชีวิต ซึ่งก็ได้ผล จันทร์ไล่ดาริกาออกแต่ตัวเองก็ใจสลาย ทิ้งการงาน เมาขาดสติทุกวัน ดาริกาเองก็เจ็บปวดจนต้องหนีไปรักษาแผลที่บ้านแม่ จังหวะนี้เพชรและยุพาได้โอกาสเหมาะสร้างเรื่องว่าจันทร์ไม่ดูแลบริษัทวรางค์ที่โกงกินกันมหาศาล ร้อนถึงคุณชายต้องสอบสวนจันทร์ แต่จันทร์กลับไม่สน คุณชายโกรธและผิดหวังในตัวลูกชายมากถึงขั้นไล่ออกจาก แกรนด์ ดารารายไม่คิดว่าเรื่องจะบานปลายไปถึงขนาดนี้ เธอเริ่มใคร่ครวญบทบาทของตัวเองที่ควบคุมลูกชายไปทุกสิ่งอย่างที่ส่งผลร้ายต่อจันทรกานต์เอง              อาร์ตี้แต่งงานวรางค์ และอย่างไม่คาดฝัน แพ็ทนำคลิปตัดต่อที่ทำให้เข้าใจว่าอาร์ตี้หลับนอนกับแพ็ทแล้วมาให้วรางค์ดูกลางงานแต่ง วรางค์สติแตกหนีออกจากงาน กลายเป็นวิวาห์ล่ม คลิปแพร่ไปในโซเชียลอย่างรวดเร็ว แพ็ทและเพชรที่กลายเป็นคู่นอนของเธออีกคนสะใจมากที่ทำลายคู่รักลงได้อีกคู่ แพ็ทพบจันทร์เมาอยู่ในผับโดยบังเอิญ เลยชิ่งหนีเพชรและพาจันทร์กลับไปนอนที่บ้านเธอ โดยบังคับให้นางมาช่วยถ่ายคลิปอย่างที่เคย จันทร์หลับไปก่อนจะมีอะไรกับแพ็ท ก่อนที่จะตื่นเช้าขึ้นมาและรับรู้ข่าวร้ายเรื่องที่เด็กๆถูกลักพาตัว จันทร์รีบไปหาอิงฟ้าและวางแผนพร้อมวิวิทธิ์ จับตัวนายดำรงและแก๊งค์สุดหล่อไว้ และบุกเซฟเฮ้าส์ช่วยเหลือเด็กๆออกมาได้ งานนี้ดาริกามาสมทบด้วย เธอแปลกใจที่จันทร์ไม่ได้แสดงท่าทีเกลียดชังเธออย่างที่ไล่เธอออกวันนั้น แถมยังปฏิบัติกับเธอแบบคนรักอย่างที่เคยอีกด้วย จันทร์เฉลยในที่สุดว่าทุกอย่างคือแผนซ้อนแผนของแม่เขา เขารู้ก่อนแล้วว่าแม่จะให้ดาริกาเล่นละครฉากใหญ่ เลยร่วมมือกับคุณชายพ่อเล่นละครตบตา ทำเป็นโกรธเกลียดดาริกา ถูกคุณชายไล่ออก เมามายไร้สติ แม้แต่ไปนอนบ้านแพ็ท ฯลฯ ทุกอย่างคือการวางแผนอย่างดีที่จะกำจัดคนโกง และสร้างความเข้าใจอันดีให้เกิดขึ้นใหม่อีกครั้ง              วิวิทธิ์บาดเจ็บเพราะช่วยชีวิตอิงฟ้า อรชรมาเยี่ยมวิวิทธิ์ที่โรงพยาบาล ซึ้งน้ำใจที่วิวิทธิ์เสียสละแม้ชีวิตตนเองเพื่อลูกสาวตน เธอรับวิวิทธิ์เป็นเขยขวัญ รวมทั้งรับเด็กข้าวตอก ดอกไม้ ข้าวตูมาเป็นหลานอีกด้วย ดาริกาดีใจกับวิวิทธิ์และอิงฟ้า และพบอีกคู่ที่กลับมาคืนดีกันคือจักรพัฒน์และพิชญา พิชญาเข้ามาขอโทษดาริกา และขอบคุณที่ช่วยทำให้เธอและจักรพัฒน์เข้าใจกันได้ แผนของจันทร์เปิดโปงความชั่วร้ายของแพ็ทให้ทุกคนรู้ วรางค์กลับมาหาอาร์ตี้เมื่อได้เห็นคลิปที่แท้จริงที่อาร์ตี้ปฏิเสธแพ็ท เพชร ยุพาถูกไล่ออกโดยจำนนต่อหลักฐาน และสุดท้ายคือดาราราย เธอได้เห็นความจริงในตัวดาริกาในความเป็นหญิงรากหญ้า เธอเป็นคนมีน้ำใจประเสริฐ รักและหวังดีกับทุกคน แม้แต่คนที่ร้ายกาจกับเธออย่างพิชญา เธอก็ช่วยให้คืนดีกับจักรพัฒน์มาแล้ว ที่สำคัญที่สุด ดาริการักลูกชายของเธอจริงๆโดยไม่มีข้อแม้ใดๆ จันทร์มากราบขอโทษแม่ที่สร้างอุบายหลอกแม่อยู่หลายเรื่อง แต่ที่ต้องทำเพื่อพิสูจน์ว่าเขาเติบโตแล้ว ฉลาดและสามารถพอจะเป็นผู้บริหารแกรนด์ได้จริงๆ ไม่ใช่เด็กที่แม่ต้องประคบประหงมเขาอีกต่อไป ที่เขาเติบโตขึ้นส่วนหนึ่งคือดาริกา ที่ให้มุมมองชีวิตกับเขา จนเขารู้ว่าเขาจะจัดการชีวิตอย่างไรในอนาคต เหตุผลสำคัญอีกอย่างที่เขารักดาริกานั่นคือ ดาริกาเหมือนแม่มากนั่นเอง ดารารายเข้าใจได้ในที่สุด            ดารารายและคุณชายเดินทางไปหาดาริกาที่บ้านตาทศ และพบความจริงว่าบ้านหลังป่าช้านั้นที่แท้ติดริมแม่น้ำ สงบ ร่มรื่น งดงาม ดารารายขอโทษทั้งกุสุมาและตาทศ และถือโอกาสสู่ขอดาริกาไปด้วยเลย ดาริกาเข้ามากราบขอโทษดาราราย ทั้งสองกอดกันและอโหสิกันด้วยน้ำตาดาริกากลับมาที่คอนโด และพบว่าจันทร์รออยู่แล้วที่ดาดฟ้าตึก ทั้งสองดินเนอร์กันท่ามกลางพระจันทร์ และดาวดวงเล็กๆที่กระพริบอยู่ตลอด เป็นสัญญาณและสัญญาว่า ดาวและเดือนคู่นี้จะอยู่ดูแลกันตลอดไป นักแสดง ภูภูมิ พงศ์ภาณุ รับบท ม.ล. จันทรกานต์ พิจักขณา วงศารัตนศิลป์ รับบท ดาริกา ฐกฤต ตวันพงค์ รับบท วิวิทธิ์ จรินทร์พร จุนเกียรติ รับบท อิงฟ้า จอนนี่ แอนโฟเน รับบท ม.ร.ว. จันทร ธัญญาเรศ เองตระกูล รับบท ดาราราย ศุภักษร ไชยมงคล รับบท พิชญา สุมณทิพย์ เหลืองอุทัย รับบท น้องนาง

-อ่านต่อ- http://gossipstar.mthai.com/tv-content/46831
แหล่งที่มา http://gossipstar.mthai.com/tv-content/46831

รอยฝันตะวันเดือด

รอยฝัน ตะวันเดือด ละครรอยฝัน ตะวันเดือด
แหล่งที่มา http://gossipstar.mthai.com/tv-content/47330

รอยฝัน ตะวันเดือด รอยฝัน ตะวันเดือด บทประพันธ์ : ณารา บทโทรทัศน์ : คฑาหัสต์ บุษปะเกศ, จีรนุช ณ น่าน กำกับการแสดง : กฤษณ์ ศุกระมงคล ออกอากาศ : พุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.15 น.           รอยฝัน ตะวันเดือด เป็นเรื่องราวของ ริว โซเรียวลำดับที่ 20 แห่งตระกูลโอะนิซึกะ ริวได้รับการยอมรับในเรื่องการทำงาน แต่เรื่องหัวใจเขากลับถูกปฏิเสธการแต่งงานจาก มายูมิ หญิงสาวที่ทางผู้ใหญ่เลือกไว้ให้เป็นคู่ครอง ริว เป็นผู้ชายที่ไม่เคยถูกผู้หญิงปฏิเสธมาตลอดชีวิต เค้าจะยอมให้เธอมาลบเหลี่ยมคงเป็นไปไม่ได้ เมื่อรู้ว่า ยูจิ บุตรชายของผู้บัญชาการตำรวจกำลังให้ความสนใจมายูมิอยู่ด้วย ส่วนมายูมิปฏิเสธริวผู้ยิ่งใหญ่เพราะตลอดเวลา 7 ปี ที่ผ่านมาริวไม่เคยสนใจเธอเลยในฐานะคู่หมั้นที่ควรจะคบกันแบบคู่รัก แต่จริงๆ แล้วริวแกล้งไม่สนใจเธอตลอดเวลาที่เธอเป็นนักศึกษาแพทย์ เพราะเกรงว่าจะเกิดอันตรายกับเธอ แต่เขาก็ปากแข็งไม่ยอมบอกมายูมิ ทำให้มายูมิเข้าใจผิดมาตลอดว่าเขาไม่เคยสนใจเธอเลย แต่ทำทุกอย่างเพียงแค่ต้องการทำตามผู้ใหญ่เท่านั้น ถึงแม้ในใจมายูมิเองก็เจ็บปวดที่จะต้องตัดใจจากผู้ชายที่เธอรักเขามาตลอดเช่นกัน             มายูมิจึงลองเสนอคำท้าให้ริวทำให้เธอรักให้ได้ เพราะเธอจะไม่ยอมแต่งงานกับเขาอย่างเด็ดขาดหากปราศจากความรัก ริวรับคำท้าว่าจะเริ่มต้นสานสัมพันธ์กับมายูมิ ทั้งคู่จึงได้ออกเดทกันที่ใต้ต้นซากุระ แต่เส้นทางความรักของทั้งคู่ก็ติดขัด เมื่อ อาคิโกะ นักแสดงสาวอดีตคู่ควงของริว มาหามายูมิที่โรงพยาบาล ประกาศว่าเธอเป็นคู่รักของริว ทำให้มายูมิเสียใจและตัดรอนริว เมื่อริวรู้จึงยื่นคำขาดไม่ให้ อาคิโกะมายุ่งเกี่ยวกับเขาและมายูมิอีก แต่มายูมิก็ฝังใจว่าริวปันใจให้คนอื่น เธอจึงออกเดทกับยูจิ ซึ่งเรื่องนี้เองที่ทำให้ริวโกรธมายูมิมากที่ทำให้เขาเสียหน้าและคิดว่ามายูมิคงมีอะไรกับยูจิแล้ว ริววางแผนหักหาญน้ำใจมายูมิพาเข้าไปอยู่ในบ้าน อย่างไม่สนใจว่ามายูมิจะรู้สึกยังไงแค่ไหน เขาต้องการแสดงความเป็นเจ้าของเพื่อให้ทุกคนรู้ว่าเธอคือผู้หญิงของเขาคนเดียวเท่านั้น เขาก็ไม่ปล่อยมายูมิกลับบ้านอีกเลย ริวบังคับให้มายูมิมาอยู่กับเขาที่บ้านด้วยการเอาเรื่องครอบครัวเธอมาขู่ นับแต่นั้นมายูมิกับริวก็ได้อยู่ห้องเดียวกัน ริวยังยอมให้เธอไปทำงานที่โรงพยาบาลแต่เขาจะต้องเป็นคนไปรับส่งเท่านั้น             ขณะเดียวกัน ปัญหาระหว่างผู้มีอิทธิพล ปัญหาศึกระหว่างสองตระกูล โอนิซึกะ และ มิซาว่า ที่คิดว่าจบสิ้นไปแล้วก็กลับคุกรุ่นขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อ ทาคาโอะ ลูกชายที่เกิดจากริกิ ตั้งตนขึ้นเป็นโอะยะบุน(นายใหญ่)คนใหม่ วางแผนร่วมมือกับ มาซารุ ผู้ทรงอิทธิพลที่ต้องการโค่นล้มริวให้ได้ โดยวางแผนให้ ฮารุ มิอุระ เจ้าของไนต์คลับเซเวนซีส์คลับหรูบนถนนราตรีผิดใจกับริวด้วยการป้ายความผิดว่าพวกของริวอยู่เบื้องหลังการตายของคนของฮารุ ริวจึงรีบไปปรับความเข้าใจกับทางฮารุด้วยการพามายูมิไปด้วย แต่กลับกลายว่าเขาถูกลอบทำร้ายอาการสาหัส มายูมิรีบส่งโรงพยาบาลและรู้ใจแล้วว่ารักริวมากแค่ไหนตอนที่กำลังจะสูญเสียเขาไป เธอสัญญากับตัวเองว่าถ้าเขารอดเธอจะแต่งงานกับเขาอย่างไม่มีเงื่อนไข และแล้วริวก็รอดพ้นวิกฤติการผ่าตัดสำเร็จ ส่วนอาคิโกะยังไม่ยอมเลิกรา ขอให้ไทชิลูกน้องคนสนิทของริวพาไปเยี่ยม ยูจิหลอกใช้ให้เธอมาอัดเสียงริวว่าเจ็บจริงหรือแกล้งเพราะริวปฏิเสธการให้ปากคำกับเขา แต่ริวก็ไม่ยอมใจอ่อนกับเธออีกไม่ยอมให้เข้าเยี่ยมเด็ดขาด ส่วนโคจิพยายามสืบหาตัวบงการว่าใครเป็นคนสั่งฆ่าริว เขาสงสัย มาซารุ กับ ยามาโมโต้ ผู้ทรงอิทธิพลมากที่สุดในเวลานี้            แท้จริงแล้วยามาโมโต้ต้องการครองเมืองท่าแห่งนี้ด้วยการสั่งให้กำจัดริว เมื่อริวรอดไปได้และไม่ตายยามาโมโต้จึงสั่งให้สังหาร 3 ที่ปรึกษาอาวุโสของริว ทำให้ คาซุมะ เสียชีวิต ส่วน โคจิ กับ มาซาโตะ อาการหนัก ขณะที่ริวออกจากโรงพยาบาลก็ต้องมารับรู้ข่าวร้าย ริวจึงวางแผนให้ศัตรูตายใจว่าพวกเขากำลังเสียขวัญ ตัดสินใจประกาศแต่งงานเพื่อกลบเกลื่อนเรื่องต่างๆ ให้เบาบางลง ยูจิเก็บอาการริษยาริวอย่างมากที่ได้มายูมิไปครอบครอง จึงใช้อาคิโกะให้หลอกริวขึ้นคอนโดเพื่อถ่ายรูปส่งให้ มายูมิเข้าใจผิด มายูมิทำท่าไม่สนใจกับรูปภาพที่ยูจิเอามาให้ดูและไม่ยกเลิกการแต่งงานกับริว หากแต่ในใจเธอคุกรุ่นและเก็บไปถามกับริวโดยตรงเมื่อริวเห็นภาพเขาอธิบายจนมายูมิเข้าใจ ริวภูมิใจที่มายูมิเป็นผู้หญิงที่หนักแน่นและเชื่อใจเขา ริวอยากให้มายูมิหายแคลงใจทุกเรื่อง จึงได้หยิบหีบเอกสารที่ตกทอดหลายชั่วอายุคนมาเปิดดูเอกสารกรรมสิทธิ์แมนชั่นที่ทำธุรกรรมร่วมหุ้นกับ เซโกะ (แพรวดาว) แต่แล้วเขาก็แทบช็อคเมื่อพบจดหมายหลังกล่องไม้ได้ไขความลับที่เก็บไว้นาน นั่นคือบิดาของริวเป็นบุตรบุญธรรม ดังนั้นริวจึงไม่ใช่โอะนิซึกะทางสายเลือด ทำให้เขาสะเทือนใจมากเพราะได้ทำลายความภูมิใจของเขาจนหมดสิ้น ถึงกับต้องการคืนตำแหน่งนายใหญ่ให้กับทายาทที่แท้จริงคือทาเคชิ            มายูมิเห็นริวกลุ้มใจจึงปรึกษากับโคจิ ซึ่งทำให้รู้ว่าแท้จริงแล้วย่าของริวหนีตามคนรักไปเพราะไม่ต้องการแต่งงานกับคนที่ผู้ใหญ่หามาให้ ปู่ทวดของริวโกรธมากจึงประกาศตัดพ่อตัดลูกกับย่าของริว ดังนั้นริวซึ่งมีสายเลือดโอะนิซึกะผ่านทางย่าแต่ที่ไม่ชอบธรรม เพราะย่าของริวถูกตัดออกจากตระกูลไปแล้ว โคจิตัดสินใจโทรหา ทาเคชิ เพื่อให้ช่วยพูดเรื่องนี้กับริวเพราะเป็นเรื่องสำคัญ ทำให้ริวโล่งใจที่อย่างน้อยเขาก็ยังมีสายเลือดโอะนิซึกะจากย่าอยู่ด้วย ต่อมายูจิกับมาซารุ พ่อของเขาใส่ร้ายริวด้วยการเอายาเสพติดใส่เรือของริว และล่อให้ ฮิโระ นายตำรวจมือสะอาด ออกมาฆ่าที่เรือของริว เพื่อป้ายความผิดให้ริวทั้งหมด ริวรู้เรื่องราวผ่านเครื่องโทรศัพท์ดักฟังที่ห้องทาคาโอะคุยกับมาซารุ ทำให้รู้แผนการทั้งหมด             ริวรีบเข้าพบฮิโระด้วยการนำการ์ดเชิญแต่งงานบังหน้าเพื่อนำเทปให้เขาฟัง และบอกแผนการทั้งหมดของเขาเพื่อตลบหลังมาซารุ เพื่อให้เขาเตรียมพร้อมที่จะเข้าสู่การกวาดล้างกลุ่มอิทธิพลเถื่อนครั้งสำคัญ ภายในใจของริวรู้ดีว่าศึกนี้ยิ่งใหญ่ เขาตัดสินใจจัดงานแต่งงานเป็นการภายในกับมายูมิก่อนวันเกิดศึกหนึ่งวัน ทำให้มายูมิแปลกใจแต่เธอก็ได้รับแต่งตั้งเป็นโอะคะมิซัง (นายหญิง) อย่างสมเกียรติ ริวตั้งใจปกปิดทุกอย่างเป็นความลับไม่ให้มายูมิกับโคจิ รู้โดยเฉพาะโคจิที่อายุมากแล้ว ลูกน้องทุกคนจึงดำเนินการตามแผนที่วางไว้อย่างเงียบเชียบ จนโคจิและมายูมิผิดสังเกตและเข้าไปค้นโต๊ะทำงานของริวพบกล่องเทป เมื่อเปิดฟังจึงรู้แผนการทั้งหมดของริวที่จะกวาดล้างกลุ่มผู้มีอิทธิพลให้สิ้นซาก           มายูมิตกใจที่ริวเอาตัวไปเสี่ยงอันตราย เธอกับโคจิจึงออกเดินทางตามหาริว ถึงแม้จะเพิ่งรู้ว่าตัวเองกำลังตั้งท้องก็ตาม แต่ไม่มีใครห้ามเธอได้ ทุกคนจึงเดินทางตามหาเรือที่ริวต้องไปติดกับตามแผนการที่เขาวางไว้เอง แต่แล้วทุกอย่างก็ไม่ได้เป็นอย่างที่ริววางแผนไว้ เมื่อลูกน้องของเขาถูกควบคุมตัว และเขาตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้าย ริวถูกรุมทำร้ายโดยยูจิและทาคาโอะจนบาดเจ็บ มายูมิตามมาช่วยได้ทันและร่วมกันต่อสู้จนช่วยริวออกมาจากการโดนทำร้ายได้ เรือถูกเผาทำให้ทุกคนหนีตายกันอย่างชุลมุน ริวและมายูมิปลอดภัย เหล่าคนร้ายทั้งหมดถูกกวาดล้างเครือข่ายอิทธิพลหมดไปจากเมือง โอะนิซึกะจึงช่วยทางการกำจัดอิทธิพลเถื่อนสร้างความสงบสุขให้กับเมืองได้อีกครั้ง เส้นทางความรักของนักรบแห่งตะวัน “ริว” กับ “มายูมิ” หญิงที่เค้ารัก ดูจะไม่ราบรื่น..หรือโรยด้วยกลีบดอกซากุระ แต่เค้าและเธอก็เดินฝ่าฝันมันไปได้ด้วยหัวใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักที่เข้มแข็ง... รอยความรักที่เกิดจากความฝันของนักรบแห่งตะวัน... ทั้ง ทาเคชิ และ ริว... จะเป็นรอยแห่งความรัก และความฝันที่ไม่มีวันลบเลือนในใจของ “แพรวดาว” และ “มายูมิ” ตลอดไป   รายชื่อนักแสดง ณเดชน์ คูกิมิยะ รับบทเป็น ริว อุรัสยา เสปอร์บันด์ รับบทเป็น มายูมิ มาริโอ้ เมาเร่อ รับบทเป็น ทาเคชิ ณฐพร เตมีรักษ์ รับบทเป็น แพรวดาว พิชญะ นิธิไพศาลกุล (กอล์ฟ) รับบทเป็น ยูจิ โคบายาชิ ธนากร โปษยานนท์ รับบทเป็น โคจิ อภิสิทธิ์ โอภาสเอี่ยมลิขิต (โจอี้บอย) รับบทเป็น ฮารุ มิอุระ อนุชิต สพันธุ์พงษ์ รับบทเป็น ทาคาโอะ มิซาว่า พิมพ์ทอง วชิราคม รับบทเป็น อาคิโกะ ศุภชัย สุวรรณอ่อน รับบทเป็น ไทชิ พลรัตน์ รอดรักษา รับบทเป็น มาซารุ โคบายาชิ ณุเดช วัฒนสุชาติ รับบทเป็น มาซาโตะ นิธิ สมุทรโคจร รับบทเป็น คาซูมะ นพพล โกมารชุน รับบทเป็น ยามาโมโต้ ไทโซ สมมาตร ไพรหิรัญ รับบทเป็น ไดกิ

-อ่านต่อ- http://gossipstar.mthai.com/tv-content/47330
แหล่งที่มา http://gossipstar.mthai.com/tv-content/47330